เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง“ เข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. นำหลักฐานขอให้ตรวจสอบบุคคลที่ใส่เสื้อโปรโมตเว็บพนันในสื่อสังคมออนไลน์

งานเข้าลูกป๊า! ‘กัน จอมพลัง’ จ่อร้อง ‘ตร.ไซเบอร์’ สอบพนันออนไลน์

กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากเข้ามาทำเคสของคุณตาคุณยาย ถูกลูกนักการเมืองขับ BMW จนอาการบาดเจ็บสาหัส ก็ดำเนินการมาเรื่อยๆ ทุกวัน จนกระทั่งเริ่มเห็นเหมือนเป็นทีมงานหรือว่าพรรคพวกของผู้ก่อเหตุ เริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นกัน จึงเข้าไปดูว่าแต่ละคนเป็นใคร แต่จังหวะที่เข้าไปดู มีโอกาสได้เห็นว่า ตรงเสื้อมีเขียนทำนอง “เบ็ดๆ ที่ไม่ใช่เบ็ดตกปลา” จึงแคปภาพและนำข้อมูลในส่วนต่างๆ ที่ดูแล้ว มันผิดกฎหมายหรือไม่ จึงเกิดความสงสัย ก่อนจะนำข้อมูลต่างๆ มามอบให้กับตำรวจ เพื่อให้ดูและตรวจสอบ สืบค้นข้อมูลว่ามีการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับตำรวจไซเบอร์หรือไม่ ถ้าหากว่าเกี่ยวข้อง ก็อยากจะให้ตำรวจไซเบอร์ดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งตนสังเกตเห็นว่าบริเวณบนเสื้อนอกจากมีคำว่า เบ็ด และ 888 แล้ว ยังมีคำว่ากาสิโนอีกด้วย ไม่รู้ว่าความหมายคืออะไร แต่ฝากให้ตำรวจตรวจสอบ ส่วนจะสามารถเชื่อมโยงถึงใครได้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

“อยากขอบคุณ พล.ต.ท.ไตรรงค์ และตำรวจไซเบอร์ทุกท่านที่มารับเรื่อง ผมเชื่อมั่นว่าเรื่องนี้จะต้องได้รับความกระจ่างอย่างแน่นอน วันนี้ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว ฝากไปถึงทางบ้านว่าถ้าหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งข้อมูลมาให้ด้ ผมจะนำข้อมูลนี้มาส่งให้กับตำรวจต่อ เชื่อว่าตำรวจไซเบอร์ลุยสุดแน่นอน เพราะที่ผ่านมาก็ทำได้ดีมาโดยตลอด” กัน จอมพลัง กล่าวและว่า ส่วนประเด็น เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ บอกว่ามีคนตั้งค่าหัว กัน จอมพลัง 1 ล้านบาท ตอนนี้มัดจำมาแล้ว 500,000 บาทนั้น เมื่อวานตนพูดด้วยคำสุภาพมากแล้วว่า กรณีนี้ตนดูแลแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง อยากให้คุณเต้เอาเวลากลับไปดูแถวพระราม 7 น่าจะดีกว่า ไปเล่นแถวพระราม 7 ดีกว่า

“ยอมรับว่าข้อความแบบนี้ คนฟังก็รู้สึกกลัวได้ แต่ตั้งแต่เรื่องแรก พูดก็ไม่จริงแล้ว ที่บอกว่ามีคนมากดดัน มีพี่ชายไปรับออร์เดอร์ สั่งให้พี่ชายมาโทรฯ หาผม บอกเลยว่ามั่ว ไม่มีเลย ที่ผ่านมาผมรักษามารยาทมาตลอด เขาคุยกับผมตรงๆ ว่า ถ้าคู่กรณีไม่จ่ายหรือไม่ดูแลยาย เดี๋ยวเขาจะให้มูลนิธิเขาดูให้ แต่พูดแบบนี้จะดูตรง หรือหักหน้ากันเกินไป” กัน จอมพลัง กล่าวและว่า ส่วนที่มีอีกฝ่ายท้าให้ตรวจสอบตนนั้น อยากจะบอกว่า “ผมมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าผมผ่านการตรวจสอบมาไม่รู้เท่าไหร่ ตั้งแต่นครบาลและหลายคน ตัวผมเอง สรรพากรก็ผ่านมาหมดแล้ว ผมก็สามารถที่จะดีแคร์ตัวเอง พร้อมเสมอกับการตรวจสอบ ผมมาเพื่อช่วยชาวบ้านด้วยใจจริง ผมไม่ใช่นักตีกิน ตบทรัพย์ หรือคนที่มาแสวงหาผลประโยชน์จากการช่วยเหลือประชาชน ผมพร้อมเต็มที่ ผมกล้าชน”

“อย่างข้อความที่มีคุณหมอคนหนึ่ง ไปคอมเมนต์บอกว่า กัน จอมพลัง ทำเว็บพนัน ทำไมถึงไม่ตรวจสอบตอนนี้ ผมให้ทนายดำเนินการฟ้องแล้ว พร้อมหากมากล่าวหาว่าผมทำ อีกฝ่ายเอาข้อมูลออกมาเลย ผมยินดี อยากรู้เหมือนกันว่าไปเกี่ยวข้องเมื่อไหร่ ตรงไหน การที่อีกฝ่ายคอมเมนต์แบบนี้ จะลบโพสต์และปิดเฟซบุ๊กทำไม ถ้าแน่ใจว่าผมผิด ก็มาเลย ผมพร้อมชน ไม่เคยกังวล สู้ 10 ทิศอยู่แล้ว” กัน จอมพลัง กล่าวทิ้งท้าย

กัน จอมพลัง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเวลาตนมาแตะเรื่องนี้ เรื่องราวก็ลอยมามากมาย ที่บอกว่าตนถอยหรือญาติไม่รับเงิน มันเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเมื่อวานที่ผ่านมา ญาติจะเอาโทรศัพท์ เอาสมบัติไปจำนำ เพื่อเอาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล ตนคุยกับ ผอ.โรงพยาบาล ก็ทราบว่ายังไม่มีเจ้าภาพที่มาติดต่อขอจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้ จึงได้นำเงินของตัวเองและเงินมูลนิธิ และ พ.ร.บ. รวมกันไปจ่ายให้ ถ้าเขาเอาเงินมา 200,000 บาทมา และมีเจตนาที่จะจ่าย แล้วทำไมถึงไม่โอนเข้าโรงพยาบาลไปเลย และจดหมายที่ลงบันทึกทางโรงพยาบาลบอกว่า มีการขอทำสำเนาและถ่ายเอกสาร ก่อนที่จะให้โรงพยาบาลรับ จึงสอบถามว่านี่คือเป็นการทำเพื่อเอาหลักฐานหรือไม่

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบรูปภาพจากที่ กัน จอมพลัง มามอบให้แล้ว ต้องนำไปตรวจสอบในรายละเอียด โดยในภาพที่เห็นว่าบุคคลดังกล่าว สวมใส่เสื้อสกรีนข้อความเป็นตัวอักษรและตัวเลข ISB888 แล้วยังต้องไปตรวจสอบดูว่ามีข้อความหรือคำพูดใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอีกหรือไม่

ส่วนจะเข้าข่ายเป็นเว็บพนันหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ในเรื่องของตัวเลข ที่ผ่านมาที่เคยดำเนินคดีกับเว็บพนันพบว่า เป็นเลขที่กลุ่มเว็บพนันออนไลน์ชอบใช้ เนื่องจากอาจจะมองว่าเป็นเลขมงคล ใช้ตัวเลขนี้เพื่อเป็นเคล็ด แต่จะต้องไปตรวจสอบว่าเป็นเว็บเก่ามาเปิดใหม่ หรือเป็นเว็บที่ไม่เคยถูกดำเนินคดี โดยจะต้องขอตรวจสอบเชิงลึก เช่นเดียวกับตัวบุคคลที่ต้องไปขยายต่อว่า เคยมีประวัติการกระทำความผิดหรือไม่

ส่วนกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบหลังจากนี้ ต้องให้เวลาทางพนักงานสอบสวนนำข้อมูลหลักฐานที่ได้ไปตรวจสอบดู หากพบว่าเกี่ยวข้องกับใคร ก็จะเชิญเข้ามาให้ข้อมูล พร้อมย้ำว่าดำเนินคดีหมด หากพบหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิดไปถึงใคร และไม่มีความกังวลใจ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าผู้เกี่ยวข้องจะมีภาพทางสังคมอย่างไร ถ้าหากว่าพบว่ามีการกระทำความผิด ก็ดำเนินคดีแบบไม่ละเว้น