ปัญหา “ค่าไฟแพง”  ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดกันอีกครั้ง หลังจาก สส.พรรคประชาชน ได้หยิบกรณีกระทรวงพลังงาน ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานสะอาด 5,200 เมกะวัตต์ ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าแพงเกินจริง เพิ่มภาระค่าครองชีพให้ทุกครัวเรือนอย่างถ้วนหน้า!!  

ถ้าย้อนสถิติค่าไฟ ตั้งแต่ปี 58 (นับเฉพาะเดือน ธ.ค.) ปีที่มีการปรับค่าไฟฐาน ขึ้นมาอยู่ที่หน่วยละ 3.7556 บาท จากเดิมหน่วยละ 3.27 บาท ค่าไฟนี้เป็นค่าไฟที่ประชาชนต้องจ่ายต่อหน่วย ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าไฟฐาน ค่าเอฟที และค่าอื่น ๆ

ปี 2558 หน่วยละ 3.43 บาท

ปี 2559 หน่วยละ 3.42 บาท

ปี 2560 หน่วยละ 3.60 บาท

ปี 2561 หน่วยละ 3.60 บาท

ปี 2562 หน่วยละ 3.64 บาท

ปี 2563 หน่วยละ 3.63 บาท

ปี 2564 หน่วยละ 3.60 บาท

ปี 2565 หน่วยละ 4.72 บาท

ปี 2566  หน่วยละ 4.45 บาท

ปี 2567 หน่วยละ 4.18 บาท  

ปี 2568 หน่วยละ 4.15 บาท (ม.ค.-เม.ย.)

ส่วน ค่าไฟงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.) ปี 68 ราคาเป้าหมายใหม่ของรัฐบาลที่กำหนดไว้ไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท จากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศราคาค่าไฟงวดใหม่ไปแล้วที่หน่วยละ 4.15 บาท โดยที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ได้ให้กระทรวงพลังงาน ที่กำกับดูแลให้คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้ร่วมกันดำเนินการกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต กฟผ. เพื่อให้ปรับลดราคาไฟตามราคาเป้าหมาย

โดยให้โจทย์ดำเนินการ 3 เรื่องต่อไปนี้ ให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน นับแต่ ครม. มีมติ หรือต้องเสร็จภายในกลางเดือน พ.ค. ได้แก่

1.ให้หาแนวทางแก้ไขปัญหาสัญญารับซื้อไฟฟ้า ในรูปแบบส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (แอดเดอร์) และ Feed-in-tariff (FIT) และเงื่อนไขที่กำหนดให้สัญญาดังกล่าวมีอายุสัญญาต่อเนื่องโดยไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดสัญญา

2.ให้หาแนวทางแก้ไขปัญหา ค่าความพร้อมจ่าย (AP) และค่าพลังงาน (EP) รวมทั้งเงื่อนไขข้อตกลงอื่นในสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน (IPP) ตามสัญญารับซื้อไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ทุกสัญญาที่มีเงื่อนไขทำให้ กฟผ. หรือรัฐเสียเปรียบ หรือมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินสมควร หรือสูงเกินความเป็นจริง 

3.ให้หาแนวทางแก้ไขปัญหา อุปสรรคในข้อตกลงในสัญญารับซื้อไฟฟ้าต่างๆ ที่ทำให้ศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า (SO) ไม่สามารถบริหารจัดการ การสั่งผลิตไฟฟ้า ให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.​ ลดต่ำลงได้

และ ครม. มีมติเห็นชอบให้กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ศึกษา และเสนอแนวทางปรับโครงสร้าง ระบบพูล ก๊าซ เพื่อให้ราคาแก๊ส สำหรับใช้ในการผลิตไฟฟ้าให้ประชาชนมีราคาต่ำลง โดยให้ดำเนินการให้ทันการประกาศราคาไฟฟ้า สำหรับรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 68

อย่างไรก็ตามคาดว่า ภายในวันที่ 30 เม.ย. นี้ กกพ. จะมีการประชุมสรุปในเรื่องราคาค่าไฟฟ้างวดใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ทันกับบิลค่าไฟในเดือน พ.ค. ซึ่งตามระบบของการไฟฟ้าช้าสุดไม่เกินวันที่ 10 พ.ค. ของเดือน พ.ค. แต่ถ้าอนุมัติค่าไฟงวดใหม่ไม่ทันจริงๆ จะสามารถใช้วิธีหักส่วนต่างค่าไฟใหม่ในบิลที่เรียกเก็บกับประชาชนในเดือน มิ.ย. ต่อไป ลักษณะเดียวกับก่อนหน้านี้ที่เคยทำมาแล้ว