สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศ ว่า “แทบไม่มีภาวะเงินเฟ้อ” เพราะราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง แต่เศรษฐกิจของสหรัฐ “อาจเผชิญกับภาวะชะลอตัว” หากไม่มีการลดอัตราเงินเฟ้อ “เดี๋ยวนี้”
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอย่างเป็นทางการของดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ในสหรัฐ เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ราคาเฉลี่ยของสินค้าโภคภัณฑ์สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 2% และเพิ่มขึ้นเกือบ 0.5% เมื่อเทียบกับสถิติของเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายเควิน เฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่า ทรัมป์สั่งการให้ทีมงานที่เกี่ยวข้องทุกคน ร่วมกันศึกษา “ความเป็นไปได้” ในการปลดนายเจอโรม พาวเวลล์ ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
อนึ่ง ประธานาธิบดีสหรัฐไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ในการปลดประธานเฟดออกจากตำแหน่ง และประธานเฟดไม่สามารถพ้นจากตำแหน่งก่อนกำหนดได้ “หากไม่มีเหตุอันควร” การอ้างความไม่เห็นด้วยด้านนโยบาย ไม่สามารถใช้อ้างเป็น “เหตุผลอันควรได้” และไม่เคยมีผู้นำสหรัฐคนใดเคยปลดประธานเฟดสำเร็จ
ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอยู่ที่ระหว่าง 4.25% ถึง 4.50% คงที่แบบนี้ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว และพาวเวลล์ยืนยันว่า จะยังไม่การเปลี่ยนแปลง ตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจน ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐตอบสนองต่อนโยบายของทรัมป์อย่างไร และย้ำว่า เฟดไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมือง.
เครดิตภาพ : AFP
