มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิทยุชุมชน การประชุมเชิงปฏิบัติการอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ทำงานด้านวิทยุชุมชน ภาคกลาง, ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ณ บ้านท้ายหาดรีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัสมุทรสงคราม โดยมีการให้ความรู้ ในเรื่อง การรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) โดย รองศาสตราจารย์ ดร. สุชาดา พงศ์กิตติวิบูลย์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา การให้ความรู้ในเรื่อง พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมัชชา นิลปัทม์ คณะวิทยาการการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี การให้ความรู้ ในเรื่อง การระรานทางไซเบอร์ (Cyber Bullying) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ตวงทอง สรประเสริฐ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา พร้อมกับการทำWorkshop Media literacy โดย ดร.เนตรดาว ยั่งยุบล คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และ การให้ความรู้ ในเรื่อง การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรที่ทำงานด้านวิทยุชุมชน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์กริ่งกาญจน์ เจริญกุล คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ผศ.ดร.สุรวุฒน์ ช่อไม้ทอง คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยเขตปัตตานี กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิทยุชุมชน มีวัตถุประสงค์สำคัญคือเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของวิทยุชุมชนให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ด้วยการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมของเครือข่ายกลุ่มของวิทยุชุมชนในการกำกับดูแลกันเอง โดยตัวมาตรฐานทางจริยธรรมที่จัดทำขึ้น จะเป็นตัวที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของวิทยุชุมชนกับวิทยุทดลองประกอบกิจการทำให้วิทยุชุมชนเกิดความน่าเชื่อถือจากสังคมภายนอก และเป็นการสร้างเครือข่ายวิทยุชุมชน ในการฝึกการกำกับดูแลกันเอง ให้ข้อมูลข่าวสารที่สื่อสารมีประโยชน์กับประชาชนในชุมชนจริงๆ ประชาชนในพื้นที่สามารถมีช่องทางร้องเรียนหากพบว่า วิทยุชุมชนของตนมีการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์กับชุมชน หรือมีการทำผิดหลักการหรือเจตนารมณ์ของวิทยุชุมชนขึ้นในมิติการู้เท่าทันสื่อ เพราะในปัจจุบันจากการที่ภูมิทัศน์สื่อได้เปลี่ยนไป การสื่อสารได้เข้าสู่ยุคหลอมรวมข้อมูลข่าวสารเชื่อมถึงกัน การพัฒนาให้เครือข่ายวิทยุชุมชนสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปจึงมีความจำเป็น รวมทั้งการทำให้เครือข่ายวิทยุชุมชนสามารถวิเคราะห์สื่อต่างๆ ให้เกิดความรู้เท่าทัน เพราะสถานีวิทยุชุมชน มีหน้าที่ในการกระจายข่าวสารสู่ชุมชนและสังคม หากนักจัดรายการวิทยุชุมชน ไม่สามารถวิเคราะห์และรู้เท่าทันถึงข้อมูลหรือข่าวสารที่รับมาได้ เมื่อสื่อสารออกไปก็จะทำให้ชุมชนหรือผู้รับสารรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปได้ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา
ในภารกิจการปฏิรูปสื่อวิทยุชุมชนถือได้ว่าเป็นรูปธรรมหนึ่งที่มีความชัดเจนในมิติของการเปลี่ยนมือการเป็นเจ้าของคลื่นความถี่จากรัฐมาเป็นของประชาชน แต่การพัฒนาให้วิทยุชุมชนเป็นสื่อที่มีคุณภาพ มีศักยภาพในการทำการผลิตข่าวสารดีๆ สู่สังคม มีมาตรฐานทางจริยธรรมในการทำงานในการกำกับดูแลกันเอง และนำไปสู่การยอมรับของประชาชนในสังคม ถือเป็นกระบวนการหนึ่งที่สำคัญ และการสนับสนุนจากหลายฝ่าย โครงการ พัฒนามาตรฐานจริยธรรมและการรู้เท่าทันสื่อของเครือข่ายวิทยุชุมชนจึงมีความจำเป็น และถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของพัฒนาการที่สำคัญของเครือข่ายวิทยุชุมชนในสังคมไทย
ด้าน ดร.เนตรดาว ยั่งยุบล หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมทางสังคมเพื่อการบริหารและพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วืทยาเขตปัตานี กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิทยุชุมชน เกิดขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของ ผศ.ดร.สุรวุฒน์ ช่อไม้ทอง คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และคณะทีมงาน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ รวมถึงภาคประชาสังคมและชุมชน ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สื่อ ที่ปลอดภัยระดับชุมชน ตำบล อำเภอ และระดับนโยบายจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพของสถานีวิทยุชุมชน นักจัดรายการ ผู้สื่อข่าวชุมชน และประชาชนที่สนใจ เพื่อให้ชุมชนมีบุคลากรที่มีความสามารถในการจัดการระบบนิเวศการสื่อสารที่สร้างสรรค์ และพัฒนานักจัดรายการ ผู้สื่อข่าวชุมชนรุ่นใหม่ ใน 4 ภูมิภาคนำความคิด/ประเด็น/ข้อมูลจากพื้นที่มาผลิตสื่อที่เป็นข่าวสารที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ ทั้งเพื่อให้เกิดพื้นที่ต้นแบบในการผลิตสื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ และเกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังชุมชนต่างๆ อย่างทั่วถึง
กระบวนการขับเคลื่อนและการทำงานเพื่อพัฒนาศักยภาพสื่อวิทยุ ถึงแม้จะมีการขยับไปเป็นรูปแบบออนไลน์ สถานการณ์สื่อที่เปลี่ยนแปลงไป แต่คนยังฟังสื่อวิทยุอยู่ อาจจะเป็นการฟังผ่านออนไลน์หรืออื่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิทัศน์สื่อ จากการหลอมรวมสื่อเพื่อใช้สื่อชุมชนเกิดการ พัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ที่สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละภูมิภาค สิ่งสำคัญคือการสื่อสารของสื่อชุมชน ต้องเปิดพื้นที่ให้ผู้ฟังมีโจทย์ในการออกแบบร่วมกัน เช่น การมีส่วนร่วมในการผลิตเนื้อหา และสะท้อนความคิดเห็นในชุมชน ในบางพื้นที่ๆ มีความขัดแย้ง เช่น สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีช่องว่างของสังคมซึ่งสื่อสาธารณะ ต้องประสานช่องว่างด้วยใช้สื่อชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ การขับเคลื่อนและการทำงานเพื่อพัฒนาศักยภาพวิทยุชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาใน กลุ่มเครือข่ายวิทยุชุมชน ในรูปแบบของวิทยุประกอบธุรกิจ วิทยุสาธารณะ สือวิทยุชุมชนและสำนักข่าวท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค ทั้งนี้ทำให้เห็นถึงบทบาทของสื่อชุมชนในการสื่อสารประเด็นทางสังคมต่างๆไม่ว่าจะเป็นประเด็นเด็ก เยาวชน สุขภาพ ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม ผู้หญิง คนพิการ ผู้สูงอายุ อาชีพ เศรษฐกิจ ชุมชน ท่องเที่ยว ชุมชน ศาสนา ชาติพันธุ์ เกษตร เพื่อเป็นช่องทางบรรเทาทุกข์ของประชาชน รับข้อร้องเรียนบรรเทาสาธารณภัย และการรับแจ้งอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยมีกลไกที่สำคัญ 3 กลไก ประกอบด้วย กลในการปกป้องและป้องกัน กลไกในการเฝ้าระวัง กลไกในการคุ้มครองเพื่อสร้างสรรค์สื่อ และเป็นโอกาส ทางเลือก หมายรวมถึงการสร้างพื้นที่กลาง พื้นที่ปลอดภัย พื้นที่เรียนรู้ และเพื่อสร้างพื้นที่ต้นแบบให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้การขับเคลื่อนโครงการเพื่อสร้างเครือข่ายสื่อชุมชน 4 ภูมิภาค การพัฒนาศักยภาพบุคลากรวิทย์/สื่อชุมชนการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ระดับพื้นที่และการพัฒนานวัตกรรมสื่อชุมชน/วิทยุ โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อเสนอนโยบายสื่อ กฎหมายและกฎระเบียบ จนเกิด “วาระสื่อ” ในระดับภาคและระดับประเทศต่อไป
การพัฒนาศักยภาพของสถานีวิทยุชุมชน นักจัดรายการ ในการจัดการระบบนิเวศการสื่อสาร ที่สร้างสรรค์สามารถนำความคิด ประเด็น ข้อมูลจากพื้นที่มาผลิตสื่อที่เป็นข่าวสารที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือคนทำงานด้านวิทยุชุมชน เกิด พื้นที่ต้นแบบในการผลิตสื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมทั้งเกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังชุมชนต่างๆ อย่างทั่วถึง ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอเพื่อพัฒนาโครงการ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถานีวิทยุ การสื่อสารหลายช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์และวิทยุชุมชน เป็นพื้นที่ช่วยเหลือในประเด็นเร่งด่วนของชุมชนที่ทันต่อสถานการณ์