เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 68 ที่รัฐสภา นายเศรณี อนิลบล สว. รับหนังสือจากสมาชิกสภาเกษตรกร จ.นครสวรรค์ นำโดย ว่าที่ร.ต.ชัยภัทร ปราบปันจา เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของสภาเกษตรกรแห่งชาติ เนื่องจาก พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ที่สนับสนุนสิทธิและการมีส่วนร่วมของเกษตรกร ในการกำหนดนโยบายและวางแผนการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น นำไปสู่การพัฒนาภาคเกษตรกรรม และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต แต่การบริหารงานของสภาเกษตรกรแห่งชาติที่ผ่านมา ไม่ตอบสนองต่อขอบเขตและทิศทางการทำงานเพื่อพี่น้องเกษตรกรอย่างแท้จริง ดังนี้ 1.ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมทั้งยังเป็นการทำงานทับซ้อนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2. มีการเอื้อประโยชน์ให้บุคคลบางกลุ่ม ซึ่งถูกมองว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากองค์กรและบริหารงานอย่างไม่โปร่งใส 3.การสรรหาเลขาธิการไม่โปร่งใส อาจมีการกำหนดตัวไว้แล้วล่วงหน้าก็เป็นได้
ว่าที่ร.ต.ชัยภัทร กล่าวต่อว่า 4.การบริหารงบประมาณไม่โปร่งใส เนื่องจากสมาชิกสภาเกษตรกรระดับชาติและระดับจังหวัดขอสนับสนุนงบประมาณ แต่มักถูกปฏิเสธและอ้างว่าไม่มีเงิน แต่มีการเบิกจ่ายงบประมาณให้กับพนักงานไปอบรมโดยไม่จำเป็น และไม่เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร 5.มีการโยกย้ายพนักงานอย่างไม่เป็นธรรมถือเป็นการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันหรือไม่ 6.การเสนอปัญหาด้านการเกษตรของผู้แทนเกษตรกรมักถูกมองข้ามไปแต่กลับยึดเอาความคิดของพนักงานประจำมาแก้ไขปัญหา ซึ่งบางครั้งไม่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร 7.ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ มอบหมายให้บุคคลใกล้ชิดซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บริหารและพนักงานประจำชี้นำ ซึ่งอาจถูกมองว่าแสวงหาผลประโยชน์จากองค์กร และบริหารงานอย่างไม่โปร่งใส ขัดหลักธรรมาภิบาล และหลักจริยธรรม
นายเศรณี กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า ตนจะรับเรื่องดังกล่าวไว้และส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา เพื่อเชิญหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง กมธ.ต่อไป.