เมื่อวันที่ 25 เม.ย. จากกรณีวานนี้ (25 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะปาง ได้รับแจ้งคนจมน้ำ บริเวณฝายน้ำล้น คลองท่าหลวง ข้างวัดเขาโร หมู่ 5 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และนักประดาน้ำ ของมูลนิธิต่างๆ ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุทราบว่าคนจมน้ำ คือ นายวัลลภ กอกนุช อายุ 30 ปี โดยพบว่าน้ำเชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการงมค้นหาตลอดทั้งคืน แต่ไม่พบประกอบกับน้ำเริ่มเชี่ยว เจ้าหน้าที่จึงยุติการค้นหาก่อนจะระดมกำลังค้นหาผู้จมน้ำอีกครั้งในเช้าวันนี้

จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะตนเลี้ยงวัวอยู่ใกล้ฝายน้ำล้นที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงคนตกน้ำ ตนจึงรีบแจ้งตำรวจและกู้ภัยช่วย ระหว่างนั้นตนและชาวบ้านพยายามหาวิธีช่วยคนจมน้ำ แต่กระแสน้ำที่ฝายน้ำล้นไหลเชี่ยว จึงไม่กล้าลงน้ำไปช่วย จึงตัดสินใจโยนถังน้ำให้คนจมน้ำเกาะ แต่น้ำเชี่ยวกรากมาก คนจมน้ำไม่สามารถเกาะถังน้ำได้ สุดท้ายจมน้ำหายไป ต่อมาตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึง ระดมกำลังช่วยกันงมหาตลอดทั้งคืนแต่ไม่พบ

กระทั่งเวลา 15.55 น. ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำ ระดมค้นหาตลอดทั้งวัน สุดท้ายต้องยกเลิกภารกิจชั่วคราวก่อน เพื่อวางแผนค้นหาคนจมน้ำอีกครั้ง ระหว่างเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำนำเรือกลับเข้าฝั่ง กระแสน้ำได้ซัดเรือพลิกคว่ำ ทำให้นักประดาน้ำรวม 5 คน พลัดตกเรือจมน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่บนฝั่งเข้าช่วยเหลือได้ 4 คน เหลือแต่นายปิติพล ตาพล หรือ เดฟ อายุ 34 ปี นักประดาน้ำมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ คาดว่าศรีษะถูกตัวเรือตีจนสลบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ก่อนจมนํ้าเสียชีวิต

สำหรับการสูญเสียในครั้งนี้สร้างความเสียใจให้กับเพื่อนๆกู้ภัยเป็นอย่างมาก เพราะนายปิติภูม ถือเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งที่อุทิศตัวช่วยเหลือสังคมมานานหลายปี ส่วนนายวัลลภ ชาวบ้านที่พลัดตกฝายจมน้ำหาย ล่าสุดแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามค้นหาทั้งวันแต่ก็ยังไม่พบ.