เมื่อวันที่ 26 เม.ย.น.ส.แพท (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี สุดช้ำ! ร้องขอความช่วยเหลือจาก “เพจกล้าที่จะกล้า” หลังถูกอดีตแฟนหนุ่ม นายสุวิทย์ กลิ่นเกษร อายุ 51 ปี อ้างตัวเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. สังกัดตำรวจภูธรภาค 7 และยังอ้างเป็นหลานชายของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตนายพลมือปราบยาเสพติด หลอกลวงจนสูญเงินกว่า 1 แสนบาท แถมยังถูกข่มขู่คุกคามถึงบ้านพัก หวั่นไม่ปลอดภัยในชีวิต!
น.ส.แพท เปิดเผยว่า รู้จักกับนายสุวิทย์ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok เมื่อปลายปี 2567 โดยนายสุวิทย์ใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า “สุวิทย์ กลิ่นเกษร” และแนะนำตัวว่าเป็นหลานชายของ พล.ต.ท.เรวัช ซึ่งตนเองเป็นแฟนคลับอยู่แล้ว ด้วยความเชื่อใจในชื่อเสียงของอดีตนายพลดัง และคำยืนยันหนักแน่นของผู้ต้องหาที่ใช้นามสกุลเดียวกัน ทำให้ตนหลงเชื่อและสานสัมพันธ์จนตกลงคบหาเป็นแฟน
หลังจากคบหากันได้ไม่นาน นายสุวิทย์ ซึ่งอ้างว่าเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เริ่มออกอุบายขอยืมเงินตนเองครั้งละเล็กน้อย ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น โดยอ้างว่าจะนำไปใช้จ่ายในการทำงานสืบสวนคดียาเสพติด และจะคืนให้เมื่อ พล.ต.ท.เรวัช ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษา ผบ.ตร. ด้วยความรักและเชื่อใจ ตนจึงทยอยโอนเงินและกดเงินสดให้ไปรวมแล้วประมาณ 1 แสนบาท
ตลอดระยะเวลาที่คบหากัน นายสุวิทย์มักจะชักชวนตนไปต่างจังหวัด โดยอ้างว่าไปทำงาน แต่ก็จะปล่อยให้ตนนอนรออยู่ที่ห้องพักเพียงลำพัง และหายตัวไปหลายชั่วโมง ก่อนจะกลับมาบอกว่าทำงานเสร็จแล้ว เมื่อตนขอไปพบ พล.ต.ท.เรวัช ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด กระทั่งนายสุวิทย์ได้ขอตนแต่งงาน โดยอ้างว่าจะจัดงานที่ไร่องุ่นของ พล.ต.ท.เรวัช ที่จังหวัดกาญจนบุรี และอดีตนายพลดังจะเป็นผู้จัดการเรื่องทั้งหมดให้ ทำให้ตนหลงเชื่อสนิทใจถึงขั้นพูดคุยเรื่องแหวนแต่งงาน
ความจริงเริ่มปรากฏ เมื่อตนนำเรื่องงานแต่งงานไปปรึกษากับเพื่อนสนิท เพื่อนเกิดความสงสัยและตรวจสอบไปยังไร่องุ่นดังกล่าว จนทราบว่าไม่มีการจัดงานแต่งงานตามที่กล่าวอ้าง และเมื่อตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่พบชื่อ พ.ต.ท.สุวิทย์ กลิ่นเกษร ทำให้ตนรู้ความจริงว่าถูกหลอกลวงมาโดยตลอด จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับ สภ.บางบัวทอง ในข้อหาฉ้อโกงเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา
ต่อมา ตำรวจสามารถจับกุมนายสุวิทย์ได้ และนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี โดยผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกมาในวงเงิน 1 หมื่นบาท หลังจากนั้น นายสุวิทย์พยายามติดต่อตนทุกช่องทางเพื่อขอให้ยอมความ แต่ตนไม่ยินยอม กระทั่งวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา นายสุวิทย์ได้บุกมาที่บ้านพักของตนในช่วงบ่าย และทิ้งป้ายข้อความขอโทษไว้ที่รั้วประตูบ้าน ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุวิทย์อีกครั้ง และขอความช่วยเหลือจากเพจ “กล้าที่จะกล้า”
ด้านนายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา ตัวแทนเพจ “กล้าที่จะกล้า” กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุนอกจากจะแอบอ้างเป็นตำรวจและหลานชายอดีตนายพลดังแล้ว ยังมีพฤติกรรมคุกคามผู้เสียหายให้เกิดความหวาดกลัว ทั้งที่เพิ่งได้รับการประกันตัวจากศาล ทางเพจจะประสานงานกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าโครงการคุ้มครองพยาน เนื่องจากพักอาศัยอยู่เพียงลำพังและเกิดความหวาดกลัวอย่างมาก