จากกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินร้อง ป.ป.ช. และ ปปป. ให้ดำเนินคดีข้าราชการและผู้เกี่ยวข้องที่ช่วยเหลือกลุ่มคนไทยบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมันและยางพาราในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการซ่องสุมโรฮิงญาประชิดชายแดนไทยนั้น

เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ล่าสุด ทีมข่าวเฉพาะกิจได้รับการเปิดเผยข้อมูลสุดExclusive จากแหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนาม ชี้ชัดขบวนการเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงญามีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นตัวการสำคัญ! แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า แม้รัฐบาลไทยจะปราบปรามการค้ามนุษย์โรฮิงญามาตั้งแต่ปี 2558 จนดูเหมือนสถานการณ์ดีขึ้น แต่กลับเป็นเหตุให้อดีตนายตำรวจชื่อดัง พล.ต.ต.ปวีน พงศ์สิรินทร์ หัวหน้าคณะทำงาน ถูกคุกคามจนต้องลี้ภัยต่างประเทศ!

แหล่งข่าวระบุ พ.อ.ซอแอ้ อดีตผู้นำกะเหรี่ยงชายแดนชุมพร-ระนอง เคยร้องขอความช่วยเหลือกรณีมีกองกำลังกะเหรี่ยงร่วมกับข้าราชการไทยค้ามนุษย์โรฮิงญาตั้งแต่ปลายปี 2567 แต่ไร้ผล จนกระทั่ง พ.อ.ซอแอ้ ถูกข่มขู่ปลดอาวุธและต้องหนีตาย! ล่าสุด พ.อ.ซอแอ้ ทำหนังสือถึง UN, นายกฯ, ประธานรัฐสภา และ กสม. ขอให้ติดตามความคืบหน้า หลังพบว่ามีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่ามีหน่วยงานรัฐไทยเอี่ยว! ที่น่าตกใจคือ สายลับกะเหรี่ยงที่ให้ข้อมูลคณะทำงานฯ ถูกหัวหน้ากองกำลังกะเหรี่ยงยิงเสียชีวิตขณะนำทางตรวจสอบค่ายโรฮิงญาใกล้ชายแดนชุมพร! เหตุการณ์นี้ตอกย้ำอิทธิพลขบวนการค้าโรฮิงญาไปประเทศที่สาม!

“ตนดีใจที่สื่อมวลชนออกมาเปิดโปง และหวังว่าสื่อจะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจเร่งปราบปรามและกระชากหน้ากากผู้บงการมารับโทษ!” แหล่งข่าวกล่าว

ทีมข่าวเฉพาะกิจ เดลินิวส์ รายงาน ขบวนการค้าโรฮิงญามี 2 ฝั่ง! ฝั่งเมียนมามีกะเหรี่ยงคุมพื้นที่ชายแดนระนอง-ชุมพร-ประจวบฯ โดยมีชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงตั้งตนเป็น “นายพล” คุมกำลัง ร่วมกับคนไทยอ้างเป็นทหาร ใช้พื้นที่ใกล้ชายแดนไทย (ต.รับร่อ ห่าง 5 กม.) และมี ร.ท.กะเหรี่ยง ตั้งค่ายพักโรฮิงญาที่อพยพจากเกาะสอง! ส่วนฝั่งไทย มีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นหัวหน้าขบวนการ รับขนย้ายโรฮิงญาจากค่ายมาชายแดน ให้เดินเท้าเข้าไทยทางช่องหินด่าน เนิน 491 หลบในสวนปาล์มน้ำมันเจ้าหน้าที่รัฐ! มีการเก็บค่าหัวโรฮิงญาหัวละ 500 บาท ขนย้ายวันละ 30-80 คน!

ที่น่าตกใจคือ “นายพล” กะเหรี่ยงที่ว่า อ้างสนิทอดีตตำรวจดังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และอาวุธสงครามในเขตปกครองกะเหรี่ยงก็ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจคนดังกล่าว! ส่วนคนไทยที่อ้างเป็นทหาร อ้างเป็นลูกน้องนายทหารระดับสูง ทำให้กะเหรี่ยงที่ไม่เห็นด้วยกับค่ายโรฮิงญาหวาดกลัว ไม่กล้าต่อต้าน!