เมื่อปีที่แล้ว คลื่นความร้อนบังคับให้เด็กหลายล้านคนในฟิลิปปินส์ต้องออกจากโรงเรียน และนับเป็นครั้งแรกที่ทางการสั่งระงับการเรียนการสอนในวงกว้าง เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างตามมา

ปีการศึกษานี้ของฟิลิปปินส์ เริ่มต้นเร็วกว่าปกติ 2 เดือน ส่งผลให้ภาคการศึกษาสิ้นสุดก่อนที่ประเทศจะเผชิญกับอากาศร้อนจัดในเดือน พ.ค. ยิ่งไปกว่านั้น ชั้นเรียนยังได้รับการจัดการใหม่ เพื่อให้เด็กนักเรียนหลีกเลี่ยงความร้อนในช่วงเที่ยงวัน และโรงเรียนหลายแห่งก็มีพัดลมและตู้กดน้ำ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศต่าง ๆ ปรับตัวเพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างไร โดยที่พวกเขามักมีทรัพยากรจำกัด

ตามข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการฟิลิปปินส์ นักเรียนประมาณ 6 ล้านคนสูญเสียการเรียนรู้ในห้องเรียนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 38.8 องศาเซลเซียสซึ่งโรงเรียนหลายแห่งมีรายงานอาการเพลียแดด เลือดกำเดาไหล และการเข้าโรงพยาบาล เพราะนักเรียนต้องอดทนอยู่ในห้องเรียนร้อน ๆ ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ

นักวิทยาศาสตร์หลายคน กล่าวว่า อากาศร้อนจัดเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ อีกทั้งความร้อนในปีที่แล้ว รุนแรงขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญตามฤดูกาล

กระทั่งในปีนี้ โรงเรียนเกือบครึ่งหนึ่งในกรุงมะนิลาต้องปิดทำการเป็นเวลา 2 วัน เมื่อเดือน มี.ค. เนื่องจากดัชนีความร้อน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุณหภูมิและความชื้น อยู่ในระดับ “อันตราย”

แม้การเรียนรู้ทางเลือก ช่วยชดเชยช่องว่างบางส่วนในช่วงที่โรงเรียนปิดทำการเมื่อปีที่แล้วได้ แต่ นางโจเซลีน อันดายา
ผู้ช่วยเลขาธิการฝ่ายปฏิบัติการด้านการศึกษา
กล่าวว่า ผลกระทบโดยรวมต่อการศึกษาของนักเรียนมีนัยสำคัญ ดังนั้น ทางการฟิลิปปินส์จึงกำหนดมาตรการต่าง ๆ ในปีนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียการเรียนรู้เพิ่มเติม

ทั้งนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนถูกลดเวลาเหลือ 4 ชั่วโมงต่อวัน รวมถึงมีการติดตั้งตู้กดน้ำ และพัดลมติดผนังอย่างน้อย 2 ตัว ในแต่ละห้องเรียน ส่วนโรงเรียนใหม่บางแห่งมีหลังคาสะท้อนความร้อน และโรงเรียนขนาดใหญ่ก็มีพยาบาลประจำการ

ข้อจำกัดสำคัญประการหนึ่งคือ กระทรวงศึกษาธิการฟิลิปปินส์มีงบประมาณเพียง 10,000 ล้านเปโซฟิลิปปินส์  (ราว 6,000 ล้านบาท) สำหรับการปรับตัวต่อสภาพอากาศ โครงสร้างพื้นฐานและการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังประสบปัญหาขาดแคลนห้องเรียนทุกปี โดยประเทศต้องการห้องเรียนเพิ่มอีก 18,000 ห้อง เฉพาะในกรุงมะนิลาเพียงแห่งเดียว.