นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า จากข้อมูลของระบบบูรณาการข้อมูลการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน โดยช่วงวัยที่มีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดอยู่ในช่วงวัย 15-19 ปี มีสาเหตุปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเร็ว การดื่มแล้วขับ สภาพแวดล้อม ข้อมูล 3 ฐาน พบว่าในปี 2567 รถจักรยานยนต์ คือยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คิดเป็น 80% ของยานพาหนะทั้งหมด

สสส. เน้นพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นพื้นที่ต้นแบบ พร้อมสร้างผู้นำเยาวชนที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมความปลอดภัย โดยสนับสนุน ยท. ดำเนินโครงการต้นแบบในจ.ชลบุรี (พัทยา) จ.ระยอง จ.ขอนแก่น ขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ เช่น การบังคับใช้กฎหมาย พัฒนาทักษะขับขี่ และส่งเสริมทำใบขับขี่อย่างถูกต้อง

นายณัฐวรรธน์ พรรังสรรค์ ผู้ตรวจราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน นับเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต เศรษฐกิจ สังคมไทยมายาวนาน ไทยถูกจัดเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียและอาเซีย ปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวยังคงมีแนวโน้มความสูญเสียที่รุนแรง เนื่องจากในปี 2567 ที่ผ่านมายังคงพบอัตราผู้เสียชีวิตสูงถึง 17,556 คน เฉลี่ย 48 วัน โดยเฉพาะกลุ่ม “เด็กและเยาวชน” ซึ่งเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศ สะท้อนให้เห็นการสูญเสียอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย

ด้านนายรวิศุทธ์ คณิตกุลเศรษฐ์ รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า จากการถอดบทเรียนมาตรการความสำเร็จของพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด พบว่าการขับเคลื่อนกิจกรรม ต้องอาศัยความร่วมมือจากต้นทุนพื้นที่ รวมไปถึงความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนมาตรการทั้ง 5 ข้อ ได้แก่ 1. ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมาย 2. ประกาศนโยบายสถานศึกษาปลอดภัย 3. พัฒนาองค์ความรู้ด้านการขับขี่และทักษะการขับขี่ 4. ส่งเสริมทำใบอนุญาตขับขี่ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก 5. สนับสนุนการปรับปรุงสภาพแวดล้อม จนนำไปสู่การนำไปใช้จริงในพื้นที่ต้นแบบต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน

งาน 365 วันอันตราย : หยุดเด็กตายบนถนน” งานขับเคลื่อนพื้นที่ต้นแบบความปลอดภัยทางถนนให้เด็กและเยาวชน จัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุบนถนนในสถานศึกษาให้ปลอดภัยทั่วประเทศ มีภาครัฐและเอกชนเข้ารับมอบเกียรติบัตรในการร่วมกิจกรรม มากกว่า 20 หน่วยงาน