สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ว่า บริษัทแอสตัน มาร์ติน หนึ่งในผู้ผลิตรถสปอร์ตหรูของสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ ว่าบริษัทจับตานโยบายภาษีของสหรัฐอย่างใกล้ชิดมาตลอด และเริ่มจำกัดการส่งออกสินค้าเข้าสู่ตลาดในอเมริกา เนื่องจากมาตรการภาษี 25% ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันบังคับใช้กับยานยนต์ที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐ
ทั้งนี้ แอสตัน มาร์ติน ไม่ใช่ค่ายรถยนต์จากสหราชอาณาจักรเพียงรายเดียว ที่ปรับเปลี่ยนนโยบายการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ บริษัทจากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ ระงับการส่งออกรถยนต์เข้าสู่ตลาดสหรัฐ ตลอดทั้งเดือน เม.ย. นี้ “เป็นอย่างน้อย” ด้วยเหตุผลเดียวกัน
Aston Martin limits US car imports over tariffs, market turmoil helps Barclays and house prices fall the most since 2023 — get briefed ahead of your morning calls with The London Rush https://t.co/dfcKns2evf
— Bloomberg (@business) April 30, 2025
ปัจจุบัน สหรัฐเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่อันดับสอง สำหรับผู้ผลิตในสหราชอาณาจักร รองจากสหภาพยุโรป (อียู)
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จำกัดผลกระทบของมาตรการภาษีทับซ้อนที่มีต่อบริษัทผลิตรถยนต์ หมายความว่า ผู้ประกอบการจะไม่ต้องจ่ายภาษีพร้อมกันสองทาง หมายถึงกับมาตรการภาษี 25% สำหรับยานยนต์นำเข้า และอีก 25% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้า โดยให้เลือกเฉพาะอัตราที่ต้องจ่ายสูงสุด
ขณะที่บริษัทซึ่งนำเข้าชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ที่ประกอบในสหรัฐ สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอรับค่าชดเชยราคาขายปลีกของรถยนต์คันหนึ่งได้ 3.75% ในปีแรก และ 2.5% ในปีที่สอง.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES