เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ร.ต.อ.นิยม ท่วมไธสง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านด่าน รับแจ้งว่ามีชาวบ้านถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลบ้านด่าน และหน่วยกู้ภัย

ที่เกิดเหตุบริเวณท้ายหมู่บ้านนาฝาย หมู่ 6 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พบรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-แดง มีจอบกับเสียมวางอยู่ ใกล้กันพบศพนายอำนาจ เต็นติรัมย์ อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมูที่ 7 บ้านเสม็ด ต.กลันทา อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ลักษณะหงายท้องอยู่บนรถจักรยานยนต์ ส่วนขายังคร่อมอยู่กับรถ ตรวจสอบตามร่างกายพบว่าบริเวณกกหูซ้าย ตามลำตัวและเสื้อมีรอยไหม้ คาดเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชม.
 
สอบถามนางฟ้ารุ่ง เต็นติรัมย์ อายุ 53 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ครอบครัวทำไร่อ้อย อยู่ประมาณ 10 ไร่ ท้ายหมู่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านนาฝาย ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน ทุกเช้า สามีจะขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปดูอ้อยที่ปลูกไว้

เช่นเดียวกับเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 06.00 น. สามีก็จะออกไป โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมา ฝนตกหนัก ตนพยายามห้ามบอกแล้วว่าฝนยังไม่หยุดตกไม่อยากให้ไป สามีตอบว่าไม่เป็นไรแค่ฝนรินๆ แล้วขี่รถออกไป จนกระทั่งมีชาวบ้านมาแจ้งว่าสามีถูกฟ้าผ่าดังกล่าว ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบว่ามีอะไรไปล่อฟ้าหรือไม่ สามีพกเพียงโทรศัพท์เครื่องเดียวไปไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นใน จ.บุรีรัมย์ เกิดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูฝน ส่วนใหญ่จะผ่าคนเลี้ยงสัตว์อยู่กลางทุ่งนาที่โล่งแจ้ง, คนไปหาปลา หรือผ่าสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร ยังไม่ปรากฏว่ามีฟ้าผ่าคนขณะขี่รถ ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นรายแรกของจังหวัด.