จากกรณีลูกสาวใจสลาย หลังแม่เสียชีวิตจากการรักษาด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน ตัดสินใจบุกตามหาที่มาสมุนไพรกลางป่า สุดช็อกพบแหล่งผลิตเต็มไปด้วยหนอนและความสกปรก ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้พูดถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “หมอหมู วีระศักดิ์” ซึ่งเปิดผลการศึกษาวิจัยใหม่ล่าสุดว่า “ฉีดสมุนไพรเข้าเส้นเลือด เสี่ยงแพ้ ติดเชื้อ อุดตัน ตับ และไตวาย”

โดยการฉีดสมุนไพรเข้าเส้นเลือดโดยตรง เป็นสิ่งที่อันตรายมากและไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะอาจก่อให้เกิดผลร้ายแรงหลายอย่าง ได้แก่
1. ภาวะแพ้รุนแรง (anaphylaxis) เนื่องจากสมุนไพรมีสารหลายชนิดที่ร่างกายไม่รู้จัก เมื่อฉีดเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง อาจกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเกินควบคุม เกิดผื่น คัน หน้าบวม ลิ้นบวม หายใจไม่ออก ความดันต่ำ และอาจเสียชีวิตได้ในเวลาไม่กี่นาที

2. การติดเชื้อในกระแสเลือด (septicemia) เพราะสมุนไพรที่ต้ม ชง หรือบด ไม่ได้ผ่านการทำให้ปลอดเชื้ออย่างเข้มงวด เมื่อฉีดเข้าสู่เส้นเลือด เชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา สามารถเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ติดเชื้อในเลือด ช็อก และเสียชีวิตได้

3. ภาวะอุดตันของหลอดเลือด (embolism) คือ เศษใบ ก้าน หรือตะกอนที่เล็กมากในสารสมุนไพร สามารถอุดตันหลอดเลือด ทำให้เนื้อเยื่อตาย (เนื้อเยื่อตายที่สมอง = อัมพาต, ที่ปอด = หายใจล้มเหลว, ที่หัวใจ = หัวใจวายเฉียบพลัน)

4. ความเป็นพิษของสารออกฤทธิ์ เมื่อสารสกัดในสมุนไพรหลายชนิด ถ้าฉีดเข้ากระแสเลือด จะมีความเข้มข้นสูงจนร่างกายจัดการไม่ทัน จะทำให้ตับ ไต หัวใจ ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว

อีกทั้ง การฉีดสมุนไพรเข้าเส้นเลือด อาจทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาไม่กี่นาทีถึงไม่กี่ชั่วโมง และไม่เคยมีการรับรองความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพจากการแพทย์แผนปัจจุบัน

โดยกรณีศึกษาการฉีดสมุนไพรเข้าเส้นเลือดที่รายงานทั่วโลก มีดังต่อไปนี้
1. จีน Anaphylaxis จากสมุนไพรฉีด
– รายงานผู้ป่วยที่ฉีดสมุนไพร “Dang Gui” (Angelica sinensis) เพื่อรักษาอาการปวดประจำเดือน
– ภายในไม่กี่นาที ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก ความดันต่ำ ช็อก
– ได้รับการช่วยชีวิตด้วย adrenaline, oxygen และยากดภูมิ → รอดชีวิต
โดยแหล่งอ้างอิง: Adverse drug reactions and adverse events of herbal medicines: an overview of systematic reviews. J Altern Complement Med. 2007;13(4):399–405. doi:10.1089/acm.2006.6357

2. เวียดนาม: ติดเชื้อในกระแสเลือด (Septic shock)
– ผู้หญิงสูงอายุฉีดสารสกัดสมุนไพรเพื่อรักษาข้ออักเสบ
– พัฒนาเป็น ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ (Septic shock) ภายใน 24 ชั่วโมง → ไตวายเฉียบพลัน → เสียชีวิต
โดยแหล่งอ้างอิง: Nguyen HT, Vu DH, Nguyen TX, Nguyen HV. Septic shock following intravenous herbal injection: a case report. BMJ Case Rep. 2013;2013:bcr2013009556. doi:10.1136/bcr-2013-009556

3. ไต้หวัน: ภาวะอุดตันหลอดเลือดปอด (Pulmonary embolism)
– ผู้ป่วยชายฉีดสมุนไพร (ไม่ทราบชนิด) ซื้อจากตลาดมืดเข้าหลอดเลือดดำ
– มีอาการหอบเฉียบพลัน, เจ็บหน้าอก, เขียว, ช็อก → เสียชีวิต
– สาเหตุ: ตะกอนสมุนไพรอุดตันเส้นเลือดปอด
โดยแหล่งอ้างอิง: Al-Shaar L, Chaaya M, Ghosn N, Zaatari G. Fatal anaphylactic reaction after intravenous injection of herbal preparation. Forensic Sci Int. 2015;249:e15–e18. doi:10.1016/j.forsciint.2015.01.017

4. อินเดีย: ตับวายจากสารออกฤทธิ์สมุนไพร
– ผู้ป่วยฉีดสมุนไพรที่มีสาร pyrrolizidine alkaloids เพื่อบำรุงร่างกาย
– เกิดตับอักเสบรุนแรง, ดีซ่าน, ตับวาย → ต้องปลูกถ่ายตับ
โดยแหล่งอ้างอิง: Stickel F, Patsenker E, Schuppan D. Herbal hepatotoxicity. Liver Int. 2010;30(7):1070–1076. doi:10.1111/j.1478-3231.2010.02367.x

อีกทั้ง ข้อสรุปสำคัญจะมีดังต่อไปนี้
1. การฉีดสมุนไพรเป็นการใช้ผิดวิธีที่เสี่ยงชีวิตสูง อาจเกิดอาการแพ้ ติดเชื้อ อุดตัน ตับ-ไตวาย
2. ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยหรือการรับรองทางการแพทย์

อย่างไรก็ตาม “ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอมีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน และหมอหมูได้พยายามอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่บางครั้งอาจมีการโต้แย้งในข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในแวดวงวิชาการ ดังนั้นจึงขอเรียนทุกท่านว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความของหมอหมู และควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง” หมอหมู กล่าว

ขอบคุณข้อมูล : หมอหมู วีระศักดิ์