เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 พ.ค. ที่กระทรวงพาณิชย์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า มีนายพิชัย นริพทะพันธ์ุ รมว.พาณิชย์ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ให้การต้อนรับ โดยปลัดกระทรวง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า เรื่องแรกการประชุมที่ผ่านมาได้รับข้อเสนอจากทุกคน รู้สึกว่ามีประโยชน์มาก และได้ไปทำการขับเคลื่อนเรื่องการท่องเที่ยวแบบ Man made destination และขยายผลเรื่องการใช้แอปพลิเคชัน Traffy Fondue ซึ่งถือเป็นช่องทางร้องเรียนหลักของรัฐบาล ตนจึงขอฝากทุกกระทรวงช่วยขยายผลในเรื่องนี้ต่อด้วย เผื่อมีเรื่องร้องเรียนอย่างไร รัฐบาลจะเป็นศูนย์กลางรับฟังความเห็นของประชาชน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญปลัดกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยเรื่องของมาตรการการสวมสิทธิสินค้าไทย การแก้ปัญหาสินค้า และเรื่องธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายในไทย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปรับปรุงช่องโหว่ทางกฎหมายที่จะเอื้อต่อการสวมสิทธิ และการประกอบธุรกิจที่มีลักษณะเป็นนอมินี ก็ขอให้เข้มงวดในเรื่องของการตรวจสอบสินค้า มาตรฐานสินค้าคุณภาพต่างๆ อีกเรื่องที่ต้องทบทวนคือเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนการจ้างงานแรงงานไทย และใช้ปัจจัยการผลิตในประเทศ รวมถึงการออกใบกำกับรับรองสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า เรื่อง One Stop Service ขอให้กระจายไปทุกกระทรวง การที่ประชาชนมาติดต่อ ขอให้ทำเรื่อง One Stop Service เป็นหนึ่งเดียวกันจะได้ลดขั้นตอน และประหยัดเวลาด้วย นอกจากนี้ขอกล่าวถึงเรื่องงบประมาณโดยทางผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้รายงานตัวเลขเมื่อเดือนที่แล้วพบว่า ภาครัฐมีการลงทุนเบิกจ่ายเม็ดเงินในระบบกว่า 500,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34% ในการลงทุนทั้งหมด ซึ่งตัวเลขดีขึ้นอย่างมาก แต่สามารถดีขึ้นได้อีก จึงขอขอบคุณทุกกระทรวง และขอความร่วมมือจากทุกกระทรวงให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณต่อ
นอกจากนี้บทบาทหนึ่งที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ คือ การเร่งส่งเสริมสินค้าเกษตรไทย ปัจจุบันสินค้าการเกษตรต่ำกว่าทุกปี ขอให้เร่งดำเนินการเรื่องนี้ และได้ทราบรายงานมาว่า ผลไม้ไทยปีนี้หลายชนิดจะล้นตลาด อย่างแรกขอการสนับสนุนจากส่วนราชการทุกกระทรวง ถ้าจะมีการซื้อจากเกษตรกร หรืออย่างไร ช่วยกันปรึกษากับทางกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้มีการซื้อสินค้าของประชาชนด้วย และสนับสนุนสินค้าเกษตรหลายๆ สินค้าไม่ให้ล้นตลาด คงต้องเริ่มทำแพลนว่าจะใช้เรื่องการจัดซื้อสินค้าอย่างไรได้บ้าง ขาดตรงไหน หรือต้องเติมตรงไหนบ้าง เพราะสินค้าล้นตลาด หากเราจะกระจายไปภาครัฐส่วนหนึ่ง และภาคเอกชนส่วนหนึ่ง อย่างผลไม้บางอย่างอยู่ได้ไม่นาน ถ้าในประเทศบริโภคผลไม้ของไทยก็ช่วยเกษตรกรได้เยอะ ขอให้ทุกกระทรวงดูเรื่องนี้ด้วย
เรื่องโครงการ Thai SELECCT ของกระทรวงพาณิชย์ ทราบอยู่ว่าจริงๆ ต่างประเทศเขาใช้สินค้าของเรา เราจะสามารถสนับสนุนเพิ่มเติมอย่างไรได้บ้าง มีมาตรการการรับรองส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ได้อย่างไรบ้าง อาจจะคุยกับทางปลัดกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดูช่องทางให้ Connect กับร้านอาหารไทยให้ได้รับสินค้าจากไทยจริงๆ และลดต้นทุน ซึ่งเราช่วยเหลือซัพพอร์ตร้านอาหารไทยในต่างประเทศได้อย่างไร ขอให้มีช่องทางหนึ่งที่จะได้ช่วยกัน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่พูดไปเรื่องราคาสินค้า อยากให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยหามาตรการทำราคาสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพ และเรื่องพ่อค้าคนกลางไม่อยากให้มี เพราะราคาถูกกดไปเยอะ ต้องขอความร่วมมือกับภาคเอกชนด้วย ขอให้ลองคุยกับทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะสามารถให้เอกชนร่วมมืออย่างไรได้บ้าง ซึ่งตนเองก็พร้อมสนับสนุน ขอให้บอกและวางแผนมาได้ จะคุยวงเล็กอีกที และตอนนี้เองที่กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบหลักๆ คือการขับเคลื่อนการค้าการลงทุน และเรื่องการรับมือผลกระทบมาตรการทางการค้าของสหรัฐ เรากำลังทำอยู่ แต่พยายามใช้เรื่องของ FTA อื่นๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเรื่องดุลราคาต่างๆ เรื่องนี้ให้ดูประกอบกันไปด้วยว่ามีอะไรสามารถบาลานซ์ หรือทำให้สมูทได้