เมื่อวันที่  8 พ.ค.โซเชียลมีเดียร้อนระอุ! เมื่อนักศึกษาชาวมาเลเซียรายหนึ่งออกมาสารภาพอย่างเปิดเผยผ่านช่องทางที่ไม่ระบุชื่อว่า พวกเขาพึ่งพาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างเต็มที่ในการทำ assignments ต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่นักเรียนต้องอดหลับอดนอนเพื่อคว้าคะแนนสูงๆ

นักศึกษาคนดังกล่าว ยอมจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงเครื่องมือ AI ระดับพรีเมียม เช่น ChatGPT Premium, Deepseek และ Gemini เพื่อให้สามารถเริ่มและทำการบ้านให้เสร็จสิ้นได้ภายในคืนก่อนวันส่งงานเสียด้วยซ้ำ

ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องมือ AI เหล่านี้ ซึ่งยังช่วยในการอ้างอิงและบรรณานุกรม นักศึกษาคนดังกล่าวจึงได้คะแนนเก็บสูงลิ่ว และยังแสดงท่าทีดูถูกอาจารย์ของพวกเขา โดยเรียกว่าเป็นพวก “บูมเมอร์” ที่ไม่สามารถ “หลอกและสร้างภาระ” ให้พวกเขาด้วย assignments ได้

โดยเขาบอกว่า “อาจารย์ของฉันพยายามอย่างหนักในการหางานมาให้ฉันทำ แต่นั่นไม่ได้รบกวนฉะันเลยสักนิด เราทุกคนได้คะแนนเก็บกันมากกว่าครึ่ง ส่วนการสอบปลายภาพ แค่หลับตาทำฉันก็ได้เกรด A แล้ว เพราะต้องทำคะแนนอีกแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เอง”

นอกจากนี้ นักศึกษาคนดังกล่าวยังดูถูกอาจารย์ว่าเป็นครูหลงยุค ล้มเหลวในการหลอกและสร้างภาระให้กับพวกเขาด้วยการมอบหมายงาน เพราะท้ายที่สุดแล้วนักศึกษาเหล่านี้ก็มีเครื่องมือที่ช่วยให้งานเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว

ซึ่งเมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ออกไป ได้มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจำนวนมากแสดงความผิดหวังที่นักศึกษาคนดังกล่าวแสดงความไม่ซื่อสัตย์ในการเรียนอย่างไม่ใส่ใจ และหลายคนเตือนว่า แม้ AI จะช่วยพวกเขาในการเรียนได้ แต่เครื่องมือเหล่านี้จะไม่สามารถช่วยพวกเขาได้เมื่อต้องใช้ทักษะการแก้ปัญหาในการทำงานในอนาคต

ความคิดเห็นจากชาวเน็ตบางส่วนระบุว่า “ไม่มีใครหลอกคุณหรอก แต่คุณกำลังหลอกตัวเองในระยะยาว” และ “ตอนนี้อาจารย์ได้อ่านคำสารภาพนี้แล้ว ลองคิดดู ใครกันแน่ที่จะสูญเสียมากกว่ากัน? อาจารย์หรือนักศึกษา?”

อีกความเห็นหนึ่งกล่าวว่า “ทำไมคุณถึงสงสารอาจารย์? พวกเขาได้รับเงินเดือนอยู่ดี แต่คุณควรสงสารตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้ามากกว่า” และ “ตอนนี้ ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ทำการบ้านด้วยตัวเองโดยไม่ใช้ AI น่าสงสารคุณจริงๆ ที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแต่กลับไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย”

เรื่องราวดังกล่าวจุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางถึงการใช้ AI ในหมู่นักเรียนนักศึกษา และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการเรียนรู้และทักษะในระยะยาว

อ้างอิงจาก https://worldofbuzz.com