เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ “China Press” ได้รายงานข่าว พบ จระเข้ตัวเมียยาวกว่า 14 ฟุต หรือ 4.5 เมตร หนักกว่า 400 กิโลกรัม ขึ้นมาเกยตื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ปาริตกันตงลาอุต หมู่บ้านปาริต กันตง เลาต์ ตำบลปาริต ลาปิส อำเภอตามัน นิรา ประเทศมาเลเซีย ห่างจากแม่น้ำบาตูประมาณ 100 เมตร เมื่อเช้าวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา และถูกชาวบ้านจับส่งให้กรมอนุรักษ์สัตว์ป่า บาตูปาฮัต ดูแล ซึ่งถือเป็น จระเข้ขนาดใหญ่อีกตัวหนึ่งที่กรมอนุรักษ์สัตว์ป่าจับได้ หลังจากเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางกรมฯ ได้จับจระเข้ตัวหนึ่งความยาว 12 ฟุต ได้ที่เมืองเทียซาน จังหวัดบาตูปาฮัต
เจ้าหน้าที่กรมอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยว่า จระเข้ตัวใหญ่ที่จับได้ในครั้งนี้ มีอายุค่อนข้างมาก คาดว่าน่าจะมีอายุมากกว่า 50 ปี และฟันเกือบจะหลุดออกมาแล้ว โดยต้องใช้คนถึง 20 คนในการยกจระเข้ตัวดังกล่าวขึ้นรถบรรทุกและขนส่งไปที่กรมอนุรักษ์สัตว์ป่าบาตูปาฮัต ซึ่งจะถูกส่งไปที่อุทยานแห่งชาติพื้นที่ชุ่มน้ำปายาอินดาห์ ในเดงคิล เขตกัวลาลางัต รัฐสลังงอร์ อีกทีเพื่อทำการอนุรักษ์
เจ้าหน้าที่กรมอนุรักษ์สัตว์ป่า เผยอีกว่า จระเข้ขนาดใหญ่ที่จับได้คือจระเข้น้ำเค็ม (Buaya Tembaga) ซึ่งเป็นจระเข้ที่มีความสามารถในการปรับตัวสูงและสามารถดำรงชีวิตอยู่ในน้ำจืดและน้ำทะเลได้ และตามสถิติเมื่อหลายปีก่อน มีจระเข้ในแม่น้ำบาตูปาฮัตประมาณ 180 ตัว แต่ปัจจุบันเชื่อกันว่าจำนวนจระเข้เพิ่มขึ้นน่าจะมีเกิน 200 ตัวแล้ว
ส่วนจระเข้ตัวใหญ่ขึ้นมาเกยตื้นจากแม่น้ำบาตู และมาอยู่ข้างต้นปาล์มน้ำมัน ภายหลังได้รับแจ้งได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ และทำการจับตามขั้นตอน โดยขั้นแรกจะเอาเชือกมาพันรอบปากจระเข้ จากนั้นเอาผ้าสีดำปิดตาจระเข้ แล้วจึงมัดขาจระเข้ไว้ โดยให้ชาวบ้านหลายคนนั่งทับหลังไว้ป้องกันไม่ให้มันเคลื่อนที่
ทั้งนี้หลังจากที่จระเข้ตัวดังกล่าว ถูกย้ายไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบาตูปาฮัต ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอุทยานแห่งชาติโลตัสเลค ก็จะดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เข้ามาชม และถ่ายรูปกับจระเข้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความกังวลว่าจระเข้ตัวนี้ไม่อาจทนต่อการรบกวน เจ้าหน้าที่จึงกันบริเวณไว้ และอนุญาตให้ประชาชนเข้าชมได้ผ่านรั้วเท่านั้น
ข้อมูล เว็บไซต์ “China Press”
