สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองกว่างโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ว่านายเติ้ง จื่อจิ้น ผู้รับผิดชอบการนำเข้าทุเรียนของบริษัทอาหารแห่งหนึ่ง ในเมืองเซินเจิ้น กล่าวว่า ทุเรียนเป็นผลไม้เมืองร้อนประเภทไคลแมคเทอริก ( climacteric ) หรือเก็บเกี่ยวตอนผลแก่แต่ยังไม่สุก และจะสุกตามเวลาที่ผ่านไปหรือผ่านการบ่ม ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการบริโภคทุเรียนสด อยู่ที่ราว 10 วัน การปรับปรุงประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก


ทั้งนี้ ท่าเรือหนานซาของเมืองกว่างโจวรับรองเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศหลากหลาย มีการพัฒนาการจัดเก็บด้วยห่วงโซ่ความเย็น และพิธีการศุลกากรที่สะดวกรวดเร็ว จึงดึงดูดบริษัทโลจิสติกส์ขนส่งผลไม้สดจำนวนมาก และยังเป็นหนึ่งในท่าเรือ ซึ่งมีการนำเข้าทุเรียนมากที่สุดของจีนอีกด้วย


บรรดาเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จากท่าเรือหนานซาสู่ประเทศและภูมิภาค ตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ( บีอาร์ไอ ) มากกว่า 150 เส้นทางนั้น มีประมาณครึ่งหนึ่งที่จุดหมายปลายทางอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีการเดินเรือสู่แหล่งผลิตผลไม้แห่งสำคัญของภูมิภาคนี้ อย่างไทยและกัมพูชาบ่อยครั้งขึ้น


ผลไม้ประจำถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างทุเรียน ลำไย กล้วย มะพร้าว และมังคุด ที่ถูกนำเข้าสู่จีนผ่านท่าเรือหนานซาจะถูกขนส่ง ด้วยรถบรรทุกต่อไปยังตลาดค้าส่งผักผลไม้กว่างโจว เจียงหนาน ภายในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ก่อนจะเข้าถึงครัวเรือนผู้บริโภคชาวจีน


นายหยาง ฟาเจีย รองหัวหน้าแผนกกำกับดูแลห่วงโซ่ความเย็น สังกัดศุลกากรหนานซาของท่าเรือหนานซา เฟส 3 กล่าวว่า มีเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศบรรทุกทุเรียนนำเข้า สู่ท่าเรือหนานซาเป็นประจำตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา คิดเป็นจำนวน 9 ลำ 200 ตู้คอนเทนเนอร์ และมีน้ำหนักรวมมากกว่า 2,500 ตัน


ทั้งนี้ หน่วยงานศุลกากรได้ติดต่อบรรดาผู้นำเข้า เพื่อทำความเข้าใจแผนการนำเข้าใน “หน้าทุเรียน” พร้อมดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากร สำหรับสินค้าผลไม้สดนำเข้าด้วยระบบห่วงโซ่ความเย็น เพื่อการนำเข้า ตรวจสอบ และปล่อยออกสู่ตลาดผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA