สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการ “เจรจาโดยตรง” ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่เมืองอิสตันบูลของตุรกี ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565 ว่าเขาพร้อมและยินดีเดินทางไปเข้าร่วม หากการปรากฏตัวของเขา “จะเป็นประโยชน์”


ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ยืนยันว่า จะเข้าร่วมการประชุมที่เมืองอิสตันบูล ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค. นี้ “ด้วยตัวเอง” และ “แสดงความหวัง” ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะเข้าร่วมด้วยตัวเองเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม ทำเนียบเครมลินยังคงสงวนท่าทีในเรื่องนี้ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงการที่ยูเครนและพันธมิตรในยุโรปของรัฐบาลเคียฟ เรียกร้องให้รัสเซียร่วมหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. และกล่าวด้วยว่า จะยกระดับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลมอสโก หากไม่ยอมปฏิบัติตาม ว่า “การใช้ภาษาข่มขู่แบบขีดเส้นตาย” เป็นเรื่องที่รัสเซียไม่มีทางยอมรับ และยืนกรานว่า ตะวันตกต้องยุติส่งมอบอาวุธ ก่อนเรียกร้องให้รัสเซียร่วมการหยุดยิง


ด้านประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ยินดีเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และขอให้ “คู่กรณีทุกฝ่ายรีบฉวยโอกาส” จากช่วงเวลานี้ และผู้นำตุรกีแสดงความหวังว่า การเจรจาครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของสันติภาพ.

เครดิตภาพ : AFP