เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ศาลาว่าการกทม. เสาชิงช้า เขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.
เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการห้องเรียนปลอดฝุ่นของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานครว่า โครงการห้องเรียนปลอดฝุ่นสำหรับเด็กเล็ก (Clean Air Shelter) มีศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร (ศพด.) มีความประสงค์ดำเนินโครงการ 151 ศูนย์ และปัจจุบัน ศพด. ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการเขียนโครงการ ทั้งนี้ ได้กำชับให้สำนักงานเขตเร่งรัดให้ ศพด. เสนอโครงการและนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเขต ภายในเดือน พ.ค. 68
โดย ผู้ว่าฯ กทม. กำชับให้เร่งรัดดำเนินการ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ ศพด.อาจไม่สามารถเขียนโครงการได้เหมือนกันทุกเขต ขอให้เจ้าหน้าที่ของสำนักพัฒนาสังคมเข้าไปช่วยในการเขียนโครงการ หรือให้จัดทำรูปแบบเท็มเพลตการเขียนโครงการไว้เป็นต้นแบบ เพื่อให้ง่ายต่อการยื่นเสนอของบประมาณ
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯกทม. ยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2568 ว่า 3 ปีที่ผ่านมา มี 2 เรื่องที่สำคัญมากและถือเป็นปัญหาของประเทศไทย คือ การศึกษาและสาธารณสุข เพราะเป็นต้นเหตุของความเหลื่อมล้ำ โง่ จน เจ็บ โดยปัญหาคือการวัดผลของการพัฒนา 2 เรื่องนี้ไม่ง่าย ไม่เหมือนการลอกคลอง ลอกท่อ ปลูกต้นไม้ ทำถนนสวย ซึ่งวัดเป็นรูปธรรมได้ง่าย
จึงต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องการวัดผลเรื่องการศึกษาให้เป็นรูปธรรมให้ได้ ให้เห็นว่าคุณภาพเด็กต้องดีขึ้น ภาษาอังกฤษต้องดีขึ้น เพราะเราทำมากเพื่อพัฒนาแต่จะทำอย่างไรให้คนเห็นว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม มีตัวเลขที่ชี้วัดได้ เราจะใช้ความรู้สึกวัดไม่ได้ เพราะถ้าวัดเป็นตัวเลขไม่ได้ก็วัดความสำเร็จได้ยาก
ทั้งนี้ สำนักการศึกษา ได้รายงานถึงการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2568 ดังนี้ 1.โรงเรียนและสำนักงานเขต โดยฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day ตรวจระบบด้านความปลอดภัย ด้านสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ปรับภูมิทัศน์ให้สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัยแก่นักเรียน เหมาะแก่การเรียนรู้พร้อมรับการเปิดภาคเรียน
2.ประชุมครู เตรียมพร้อมก่อนเปิดเทอม วางแผนแนวทางการศึกษา รูปแบบใหม่ตามที่นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศจุดเน้นด้านการศึกษา ปีการศึกษา 2568 “เอ๊ะ ? อ๋อ ! โอเค ! พลัส +++ “เด็ก กทม. ก้าวทันโลก อยู่รอดทุกการเปลี่ยนแปลง”
โรงเรียนวางแผนการสอนตาม SDGS ให้การศึกษามีคุณภาพ ครอบคลุมและเท่าเทียม สนับสนุน 7 สมรรถนะนักเรียน กทม. และ3.ประชุมผู้ปกครอง สร้างความเข้าใจระเบียบ บทบาทหน้าที่ หาแนวทางดูแลช่วยเหลือนักเรียน
พร้อมเน้นย้ำเรื่องการจำหน่ายอาหาร น้ำอัดลม ที่ไม่มีประโยชน์ การบริหารจัดการพื้นที่โรงเรียนให้เกิดความปลอดภัย การซักซ้อมการประสบเหตุ เช่น แผ่นดินไหว ไฟไหม้ ก่อการร้าย น้ำท่วม และให้ความรู้การ CPR เป็นต้น การป้องกันการแพร่โรคระบาดในโรงเรียน
รวมถึงตรวจสอบอาคารและสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดย จากการสำรวจมีโรงเรียนที่ไม่เสียหายหรือเสียหายเล็กน้อย ใช้งานอาคารได้ตามปกติ 74 โรงเรียน และเสียหายปานกลางและตรวจสอบเพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป 4 โรงเรียน.
