จากกรณี นายพรชัย แสงดี หรือบิ๊ก อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 5 ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงแสกหน้าและตามร่างกาย ประมาณ 3 นัด นอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่เถียงนา ริมห้วยหลวง ท้ายหมู่บ้านหนองบัวบาน ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยมีคนพบศพเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 13 พ.ค. 68 คาดว่าจะถูกยิงช่วงกลางดึกคืนเดียวกัน และยังมีข้อพิพาทระหว่างแม่ผู้ตายกับตำรวจ เนื่องจากแม่ผู้ตายไม่ยินยอมให้นำศพไปผ่าชันสูตร และต้องการจะทำการเผาศพทันที โดยอ้างว่าไม่มีเงินค่าดำเนินการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 68 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.ท.เศกสันต์ ฤาเวทย์ รอง ผกก.สส.สภ.เพ็ญ และตำรวจชุดสืบสวน ภ.4 , สืบสวน ภ.จว.ดรธานี และสืบสวน สภ.เพ็ญ ได้ควบคุมตัวนายสังคม ศรีอร หรือสัง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 9 ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และนายสมภักดิ์ แสงรถ หรือสม พ่อเลี้ยงของนายบิ๊ก ผู้ตาย อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 5 ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ


โดยก่อนหน้านี้ตำรวจได้พุ่งเป้าสาเหตุไปที่การหักหลังธุรกิจผิดกฎหมาย หรือพัวพันยาเสพติด เนื่องจากผู้ตายเคยมีประวัติการถูกจับมาแล้ว และยังคงมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ จากการลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้าย ยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นออกทั้งทั้งหมด และพบความผิดปกติ เนื่องจากแม่ผู้ตายต้องการจะเผาร่างลูกชายทันที ตอนแรกไม่ยินยอมที่จะให้นำศพส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาล จนมีการไปแย่งศพลูกชายมาจาก รพ.เพ็ญ กลับมาที่วัดในหมู่บ้าน เพื่อจะประกอบพิธีทางศาสนา
จนกระทั่งร้อยเวรเจ้าของคดีต้องนำกำลังตำรวจไปอายัดศพกลับคืนไปไว้ที่โรงพยาบาล พร้อมกับอธิบายว่า เป็นการตายผิดธรรมชาติ เสียชีวิตเนื่องจากถูกยิงด้วยอาวุธปืน ต้องมีการผ่าหัวกระสุนออกจากศพ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี แม่ของผู้ตายจึงยินยอม หลังจากนั้นตำรวจชุดสืบสวน จึงได้เชิญญาติผู้ตายทุกคนมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ที่สุดแล้วนายสมภักดิ์ แสงรถ หรือสม พ่อเลี้ยงนายบิ๊กผู้ตาย ได้รับสารภาพว่าร่วมกับนายสังคม ศรีอร หรือสัง เพื่อนรุ่นน้อง ลวงนายบิ๊ก ออกมายิงทิ้งที่เถียงนาจุดเกิดเหตุ

นายสม พ่อเลี้ยงนายบิ๊ก ให้การรับสารภาพว่า โกรธแค้นที่นายบิ๊ก ติดยาบ้างอมแงม ไม่ทำการทำงาน เอาแต่ขอเงินแม่ไปซื้อยามาเสพ เมื่อขอเงินไม่ได้ก็จะลงมือตบตีทำร้ายร่างกายแม่ตัวเอง ทำลายข้าวของภายในบ้าน และนายบิ๊ก ก็ชอบลักเล็กขโมยน้อย ทั้งทรัพย์สินในบ้านตัวเอง และบ้านของชาวบ้าน จนเป็นที่เอือมระอา ด้วยความสงสารภรรยา จึงมาปรึกษานายสัง เพื่อนรุ่นน้อง ให้ช่วยยิงนายบิ๊ก ลูกเลี้ยงเพื่อตัดปัญหา
หลังจากนั้นได้นำเงินเก็บไปซื้อปืนเก็บไว้ เป็นอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ แบบหักลำยิงทีละนัด และกระสุนขนาด .38 จำนวน 4 นัด วางแผนอยู่หลายวัน จนคืนเกิดเหตุ ได้ลวงนายบิ๊ก ออกมาที่เถียงนา ตนและนายสัง ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาด้วยกัน นายบิ๊ก ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาหา สบโอกาสนายบิ๊ก เผลอ นายสัง ได้ยิงเข้าแสกหน้านายบิ๊ก จนล้มลง และหักลำปืนยิงตามร่างกายอีก 3 นัด เมื่อแน่ใจว่าตายแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์ทั้งของตัวเอง และของนายบิ๊ก กลับบ้านทันที
เบื้องต้นจากการผ่าพิสูจน์ศพ พบกระสุน .38 จำนวน 4 นัด ตามที่กล่าวอ้าง จากการตรวจสอบอาวุธปืน ศพผู้ตาย และตามร่างกายนายสัง พบคราบเขม่าดินปืน ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” จึงควบคุมตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.