จากกรณีที่ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือ เจ้าคุณแย้ม วัดไร่ขิง เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม และเจ้าคณะภาค 14 พร้อมด้วยทนายความ และคณะพระผู้ติดตาม เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกร้องเรียนยักยอกเงินวัดไร่ขิงกว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นพนันออนไลน์ โดยพบเส้นทางการโอนเงินจากบัญชีของวัดไปยังบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส ก่อนถูกโอนต่อไปยังบัญชีหญิงสาวที่มีประวัติพัวพันเว็บพนัน และเคยถูกจับกุม ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า พนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้า รวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน และสอบปากคำพยานผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีซึ่งได้ทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน และจากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ ทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และนางสาวอรัญญาวรรณ หลายช่องทางในช่วงปี 63 ถึง ปี 67 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท 


โดยแยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของทิดแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณ ในช่วงปี 66 รวมกัน 80 ล้านบาท และใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ ที่โอนเงิน และตระเวนนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท ยังพบอีกว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชีโอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณ อีก 60 ล้านบาท

 


ส่วนการตรวจสอบบัญชีภายในวัดไร่ขิง พบมีมากกว่า 20 บัญชี ซึ่งเป็นรูปแบบของการเปิดบัญชีเฉพาะกิจ เช่น เปิดโอนเงินสำหรับเช่าบูชาพระเครื่อง และกิจกรรมต่าง ๆ ของวัด และบัญชีของมูลนิธิภายในวัดไร่ขิง 3 บัญชี ในจำนวนที่กล่าวมาเบื้องต้น มี 7 บัญชีที่พนักงานสอบสวนใช้กล่าวหา ทิดแย้ม ในการยักยอกเงินวัด และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกหลายบัญชี 


ส่วนกรณีการสอบปากคำลูกศิษย์คนสนิทของทิดแย้ม ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ที่ ทิดแย้ม ใช้ขณะเป็นเจ้าอาวาส จำนวนหลายคัน ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเงินที่นำมาซื้อรถยนต์เป็นเงินจากส่วนไหน ถ้าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินคดีในส่วนนี้ด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง