เมื่อวันที่ 18  พ.ค.หากคุณกำลังโหยหาจุดหมายปลายทางแห่งธรรมชาติที่มอบความแปลกตาและน่าตื่นตาตื่นใจอย่างแท้จริง “เกาะพระทอง” ในอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา คืออัญมณีลับที่ไม่ควรพลาด ด้วยภูมิประเทศอันหลากหลายที่ผสานกันอย่างลงตัว ตั้งแต่ทุ่งหญ้าสะวันนากว้างสุดลูกหูลูกตา ป่าเสม็ดขาวแคระรูปร่างประหลาด ไปจนถึงพืชกินแมลงหายาก เกาะแห่งนี้จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “แอฟริกาแห่งเมืองไทย” พร้อมมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

หนึ่งในเอกลักษณ์โดดเด่นของเกาะพระทองคือ ทุ่งหญ้าสะวันนา อันกว้างขวางสุดสายตา ราวกับยกทุ่งหญ้าในทวีปแอฟริกามาไว้กลางทะเลอันดามัน ถัดจากทุ่งหญ้าไปไม่ไกล จะพบกับ ป่าเสม็ดขาว ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ต้นเสม็ดขาวขึ้นอยู่กระจัดกระจายทั่วบริเวณ บางต้นมีลำต้นบิดเบี้ยวโค้งงอราวกับงานประติมากรรมที่สรรค์สร้างโดยธรรมชาติ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด อาทิ กวางป่า และนกพื้นถิ่นหายาก อีกทั้งป่าเสม็ดขาวยังทำหน้าที่เป็นแหล่งซับน้ำสำคัญ หล่อเลี้ยงระบบนิเวศบนเกาะให้คงความสมดุล

แต่ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเกาะพระทองคือ การชม พืชกินแมลงหายาก บริเวณดินทรายรอบทุ่งหญ้าและป่าเสม็ดขาว อันได้แก่ ต้นหยาดน้ำค้าง ดอกไม้เล็กๆ ที่งดงามบนผืนทราย มีขนเล็กๆ ที่ปลายมีหยดน้ำใสเหนียวไว้ดักจับแมลง จนได้รับฉายา “สวยสังหาร” และ หม้อข้าวหม้อแกงลิง พืชอีกชนิดที่ใช้กลไกธรรมชาติอันชาญฉลาดในการล่อลวงแมลงเข้าสู่กับดัก พืชทั้งสองชนิดนี้นับเป็นพืชเฉพาะถิ่นที่หาชมได้ยากยิ่งในระบบนิเวศอื่นๆ ของประเทศไทย

สำหรับการเดินทางสู่เกาะพระทอง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือหางยาวจากท่าเรือคุระบุรี ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที เมื่อถึงเกาะ สามารถเช่ารถโฟร์วีลเพื่อเข้าสู่ใจกลางเกาะ และเข้าร่วมกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ต่างๆ อาทิ การเดินชมธรรมชาติ ส่องนก หรือถ่ายภาพพืชหายาก เกาะพระทองมิได้เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอันงดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นห้องเรียนธรรมชาติกลางแจ้ง ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศอันเป็นเอกลักษณ์ พืชหายาก และความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน