นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2568 มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ พ.ศ. 2543 เพื่อให้สามารถนำกำไรสะสมของ รฟม. ปีละประมาณ 8 พันล้านบาท ไปสนับสนุนกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วมในการชดเชยมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย และให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และสามารถส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามนโยบายรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ เข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในวันที่ 28-30 พ.ค.นี้ได้ ขณะเดียวกันต้องเพิ่มเติมเงื่อนไขในร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อให้กองทุนฯ ตั๋วร่วมสามารถรับเงินอื่นได้นอกเหนือจากเงินบริจาคด้วย สำหรับร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ขณะนี้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 1 แล้ว โดยจะมีการเพิ่มเติมเงื่อนไขดังกล่าวในการประชุมวาระที่ 2 และ 3 คาดว่าจะมีการประชุมประมาณเดือน ก.ค. 2568 อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการทุกขั้นตอน เพื่อทำให้ประชาชนได้รับสิทธิค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายกับรถไฟฟ้าทุกสายได้ในวันที่ 30 ก.ย. 2568 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่ประชาชน

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 22 พ.ค. 2568 จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย อาทิ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.), กรมการขนส่งทางราง (ขร.), รฟม., การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อประชุมหารือ และเตรียมการเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นแอปที่จะเปิดให้ผู้โดยสารลงทะเบียนรับสิทธิค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ขณะเดียวกันจะหารือเพื่อกำหนดหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบ เพื่อขับเคลื่อนเรื่องการจัดตั้งกองทุนที่จะนำไปใช้ซื้อรถไฟฟ้าทุกสายคืน รวมทั้งการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลที่เข้ามาในเขตพื้นที่ใจกลางเมือง ผ่านแนวเส้นทางรถไฟฟ้าด้วย.