กระแสมวยไทยสำหรับชาวต่างชาติ ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลไทยเดินหน้าให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ ส่งเสริม อนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้กับชาวต่างชาติกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่เพิ่งจบลงไป “บิ๊กบอย” นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นำทีมเปิดงาน “Thai Fists in Thai Fest โชว์กำปั้นไทย ที่กรุงปารีส ประเทศไทยฝรั่งเศส มุ่งนำศิลปะ เอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะมวยไทยมาสร้างกระแส สร้างมูลค่าที่แดนน้ำหอม โดยงานนี้ นาบิล อานาน แท็กทีม ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ เปิด “Thai fist” ถ่ายทอดวิชาการออกอาวุธมวยไทยในฉบับต้นตำรับให้กับชาวฝรั่งเศส กว่า 300 คน ที่มาร่วมคอร์สเรียน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมเปิดงานกิจกรรม Thai fist in Thai fest โชว์กำปั้นไทย ในงานเทศกาลไทย จุดกระแสมวยไทยซอฟท์เพาเวอร์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมีนางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย และคณะผู้บริหารวงการกีฬาไทย รวมถึงนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ร่วมงานด้วย

นายสรวงศ์ เทียนทอง เปิดเผยว่า การเดินหน้าโร้ดโชว์ มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เราได้ครูมวยนักมวยชื่อดังจากประเทศไทย มาสอนวิชามวยไทย ให้กับชาวต่างชาติหลายคน อย่างการมาที่ฝรั่งเศส ในรอบนี้ แน่นอนว่าเราได้นำศิลปะแม้ไม้มวยไทยแบบต้นตำรับมาถ่ายทอดผ่านกิจกรรมมวยไทย “Thai fist” แต่อีกนัยยะหนึ่งในแง่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประเทศฝรั่งเศส มีนักท่องเที่ยวปีหนึ่งกว่าร้อยล้านคน ซึ่งเราได้ปรึกษากับ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส และอยากร่วมกันนำเสนอการท่องเที่ยวไทยให้มากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าทางเศษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต ซึ่งนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยวและกีฬา การที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬาระดับโลก อาทิ โมโตจีพี วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก หรือ เนชั่นส์ลีก และซีเกมส์ และอีกหลากหลายชนิดกีฬา ซึ่งรัฐบาลพร้อมเต็มที่กับการจัดการแข่งขัน และแน่นอนว่ามวยไทย คือ หนึ่งในอีเวนต์ที่สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี

ทางด้าน ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับมวยไทย รวมถึงซอฟต์พาวเวอร์เป็นอย่างมาก ซึ่งตนเองในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา อยากจะเห็นมวยไทยแพร่หลายทั่วโลก การมาครั้งนี้ได้ร่วมกิจกรรม กับทางสถานเอกอัครราชฑูตไทยในฝรั่งเศส จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป “Thai fist” โดยนำนักมวยชื่อดังเช่น นาบิล อานาน ซูเปอร์สตาร์นักมวยไทย แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เฉพาะกาล, ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ อดีตแชมป์โลกมวยไทย, แดเนียล โรดริเกวซ ยอดนักมวยไทยชาวสวิส เจ้าของเข็มขัดแชมป์เวทีราชดำเนิน และ “เทรนเนอร์เก” เทรนเนอร์คู่ใจของ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” มาร่วมสอนศิลปะมวยไทยอย่างถูกต้องลึกซึ้ง แก่นักมวยชาวต่างชาติที่หลงรักมวยไทย ที่ฝรั่งเศสรอบนี้ด้วย

“งานที่จัดขึ้น 2 วันมีนักมวยร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมกว่า 300 คน จึงต้องแบ่งครึ่งให้เหลือวันละ 150 คน เพื่อที่นักมวยที่มาร่วมกิจกรรมจะได้ต่อยอดความรู้ได้อย่างเต็มที่ และครูมวยไทยจะได้ดูแลนักเรียนในคลาสอย่างทั่วถึง สิ่งสำคัญที่ประเทศไทยจะได้รับจากการจัดกิจกรรมมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์นั้นยิ่งมีผู้สนใจเยอะก็จะนำพากันไปเรียนที่เมืองไทย ที่สำคัญบางคนไม่ได้มาคนเดียวแต่มาทั้งครอบครัวเพื่อมาท่องเที่ยวอีกเป็นสัปดาห์เป็นเดือน มาจับจ่ายซื้ออุปกรณ์มวยไทย ตามหัวเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งก็ถือเป็นการเพิ่มรายได้ในพื้นที่ชุมชนและนี่คือผลพวงจากการท่องเที่ยวโดยกีฬา” ผศ.พิมล กล่าว

สำหรับกิจกรรม “Thai fist” ที่ให้ความรู้ด้านมวยไทย มียอดนักมวยไทยชื่อดังตบเท้าถ่ายทอดศิลปะแม่ไม้มวยไทยกันจำนวนมาก โดยวันแรกมีผู้เข้าร่วมกิจกรมจำนวน 150 คน ช่วงเช้าเป็นคิวของ ยอดแสนไกล แฟร์เทกซ์ อดีตแชมป์โลกมวยไทย ต่อด้วย แดเนียล โรดริเกวซ ยอดนักมวยไทยชาวสวิส เจ้าของเข็มขัดแชมป์เวทีราชดำเนิน ร่วมถ่ายทอดเทคนิค ส่วนช่วงบ่าย ซูเปอร์สตาร์นักมวยไทยชื่อดัง นาบิล อานาน และ “เทรนเนอร์เก” เทรนเนอร์คู่ใจของ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” ร่วมถ่ายทอดศิลปะแม่ไม้มวยไทย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับความสนใจและความประทับใจจากนักมวยชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก

นาบิล อานาน กล่าวว่า กิจกรรมมวยไทย “Thai fist” รอบนี้ ตัดสินใจมาร่วมด้วยเพราะสามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้ ซึ่งก็มองว่านี่น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้เข้าร่วม ให้มีความเข้าใจศิลปะแม่ไม้มวยไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีโอกาสแบบนี้อีกก็อยากจะมีส่วนร่วมกับกิจกรรมแบบนี้อีกในทุก ๆ ครั้งทุกๆ ช่วงที่ไม่ชนกับช่วงชกป้องกันแชมป์