เมื่อวันที่ 26 พ.ค. น.ส.ไพริน (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี แม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หอบหลักฐานเป็นใบแจ้งความของ 2 สถานีตำรวจ ทั้ง สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ และ สภ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน พร้อมเอกสารการแชตไลน์สนทนา และการส่งสลิปโอนเงิน ร้องกับสื่อมวลชนในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยอ้างว่าโดนคู่กรณีซึ่งเป็นลูกสาวของ ส.ท.ชื่อดัง โกงเงินไปกว่า 1.5 ล้านบาท ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน แทบไม่มีเงินดูแลแม่วัยชราและเลี้ยงลูกอีก 2 คน

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก น.ส.ไพริน หลงเชื่อ น.ส.ชลธิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่รายใหญ่ ที่ยื่นข้อเสนอให้เอาเงินมาลงทุนร่วมกันซื้อสลาก โดยสลาก 1 ใบจะขายได้กำไร 20 บาท น.ส.ไพริน รับส่วนแบ่ง 9 บาท ส่วนอีกฝ่ายรับส่วนแบ่ง 11 บาท หลังจากขายได้ประมาณ 1 ปี เดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา เริ่มมีปัญหา เมื่อ น.ส.ชลธิชา คู่กรณี ไม่เคลียร์เงินให้เหมือนเคย มียอดค้างอยู่ 3 งวด งวดแรก 330,000 งวดสอง 440,000 งวดสุดท้าย 710,000 รวมทั้งหมด 1.5 ล้านบาท จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้

โดย น.ส.ไพริน กล่าวยืนยันว่า ได้ออกตามหาอีกฝ่ายจนเจอตัว และมีการพูดคุยเจรจากันแล้ว ที่สภ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน คู่กรณี อ้างว่าธุรกิจล้มขาดทุน ไม่มีเงินคืนให้ ขอเวลา 3 เดือน เปลี่ยนงานใหม่ จะหาเงินใช้หนี้ให้กับตน หากไม่มีจะยอมให้ดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมติดคุก ส่วนพ่อที่เป็น ส.ท.และไปด้วยกัน บอกให้ไปเคลียร์กับลูกสาวพ่อไม่รับรู้

อย่างไรก็ตามตนทราบว่า คู่กรณียังประกอบอาชีพขายสลากฯและใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่ไม่ยอมใช้หนี้ ก่อนหน้าจะโกงเงินของตน คู่กรณียังไปโกงเงินคนอื่นด้วย รวมความเสียหายแล้วประมาณ 3-5 ล้านบาท ตนจึงสงสัยว่าเงินมากขนาดนี้จะหายไปไหนหรือจะโกงมาเก็บไว้เอง แต่มักอ้าง ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย

ขณะที่ ตำรวจ แนะนำว่า คดีนี้เป็นความแพ่ง ให้ไปจ้างทนายความฟ้องศาลเอาเอง ทำให้ตนเกิดความเครียด เพราะจะเอาเงินที่ไหนไปจ้างทนาย เงินใช้จ่ายในบ้านยังแทบไม่มี เงิน 1.5 ล้านบาท ก้อนนี้สำคัญกับครอบครัวของตนมาก หากไม่ได้เงินคืน แล้ว 4 คนจะใช้ชีวิตต่อไปกันได้อย่างไร อยากฝากผ่านสื่อฯไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย.