สำนักข่าวต่างประเทศรายงานถึงผลงานวิจัยที่น่าทึ่งเกี่ยวกับมัมมี่สัตว์อายุหลายร้อยปีของญี่ปุ่นซึ่งเชื่อกันว่าเป็นมัมมี่ของ ‘มังกร’ โดยเพิ่งเผยแพร่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้

สำนักข่าวเพนนิวส์ระบุว่า มัมมี่ ‘มังกรสายรุ้ง’ ที่เชื่อว่าเป็นซากร่างของมังกรดังกล่าวถูกเก็บซ่อนไว้ในคลังสมบัติโชโซอินในเมืองนาราของญี่ปุ่น มีรายงานว่ามัมมี่มังกรตัวนี้ถูกค้นพบโดยโยชิโนริ อาชิกางะ โชกุนลำดับที่ 6 ของรัฐบาลโชกุนอาชิกางะ ยุคมูโรมาจิของญี่ปุ่น ผู้ดำรงตำแหน่งระหว่างปี ค.ศ. 1429-1441

ตามตำนานเล่าว่า อาชิกางะพบโครงกระดูกนี้ตอนที่กำลังตัดชิ้นส่วนจากไม้กฤษณาที่สูงค่าและหายากที่เรียกว่า ‘รันจาไต’ ระหว่างเยี่ยมชมวัดโตไดจิในเมืองนารา

ไม่นานหลังจากนั้น พระในวัดก็อ้างว่าเคยเห็น “บางสิ่งบางอย่างที่มีรูปร่างเหมือนมังกรตัวเล็ก” ที่โดนตากแห้งด้วยแสงแดด อาชิกางะจึงนำโครงกระดูกนั้นไปเก็บรักษาไว้

แต่นักวิจัยชี้ว่า โครงกระดูกของสัตว์ตัวนี้ไม่ใช่มังกร ผลงานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ระบุว่ามันคือซากของสัตว์เพศเมียชนิดหนึ่งคือมาร์เทน (Marten) หรือหมาไม้ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์เพียงพอน 

ซากหมาไม้ตัวนี้เป็นสายพันธุ์ที่พบในญี่ปุ่นตอนกลางและทางใต้ ถือเป็นสัตว์ประจำถิ่น

ในรายงานวิจัยระบุว่า จากซากมัมมี่ดังกล่าว จะมองเห็นฟันกรามน้อยทั้งสองซี่ได้อย่างชัดเจน และลักษณะนี้บ่งชี้ว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดกินเนื้อในวงศ์เพียงพอน 

นักวิจัยใช้เทคโนโลยีเอกซเรย์และการหาอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสีจนพบว่า หมาไม้ตัวนี้มีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 11 หรือ 12 

ในช่วงเวลานั้น วัดโตไดจิกำลังอยู่ระหว่างการบูรณะสถานที่ครั้งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สัตว์ตัวนี้หลงเข้าไปในอาคารและถูกขังไว้จนตายและกลายเป็นซากมัมมี่ แต่เนื่องจากซากหมาไม้ตัวนี้ไม่มีขาหน้า จึงทำให้มันดูคล้ายมังกรขนาดเล็ก

ตามตำนานเล่าว่า ทุกครั้งที่มีการเปิดห้องเก็บมัมมี่ตัวนี้ ฝนจะตกลงมา และในระหว่างการศึกษา นักวิจัยก็ต้องเผชิญกับฝนตกหนักที่ทำให้การเดินทางจากโตเกียวไปยังนาราเป็นเรื่องยากลำบาก

มามิ ทสึรุ ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์จากคลังสมบัติโชโซอินกล่าวว่า เธอเชื่อมั่นว่าโครงกระดูกนี้เป็นชิ้นเดียวกันกับที่พระวัดโตไดจิเคยบันทึกไว้

“การคำนวณหาอายุของมันได้ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้อย่างมากว่า มัมมี่นี้คือวัตถุที่ดูคล้ายมังกรซึ่งโดนตากแห้งด้วยแสงแดดตามที่บันทึกไว้ในเอกสารจากยุคสมัยมูโรมาจิ” ทสึรุ กล่าวและเสริมอีกว่า “เราเชื่อว่านี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าคลังสมบัติโชโซอินไม่เพียงปกป้องแต่สิ่งของที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งของทั้งหมดที่อยู่ในคลังสมบัติด้วย”

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : Shosoin Treasure House