จากกรณีกองขยะนับแสนตันบ้านเขาทองแก่งเสี้ยน หมู่ที่ 5 อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งถูกสั่งปิดมาเมื่อปี 2565 เนื่องจากหมดสัญญา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทหารขอจากกรมธนารักษ์ ใช้ในการฝึกทางยุทธวิธี และมีการลักลอบนำขยะไปทิ้ง รวมถึงทาง นายก อบต.แก่งเสี้ยน ได้ให้แต่ละองคการบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) 37 อปท. นำขยะมาทิ้ง โดยมีเก็บค่าขยะตันละ 350–400 บาทต่อตัน จนขยะนับแสนตันกองสูงกว่าภูเขาบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไปตั่งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บริเวณหมู่ 5 บ้านเขาทอง ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาของกองขยะดังกล่าวโดยตรง พบว่าทุกวันนี้ ชาวบ้านยังคงได้รับความเดือดร้อนจากบ่อขยะ ทั้งเรื่องของกลิ่นเหม็น น้ำเสีย รวมถึงฝูงแมลงวันจำนวนมาก ที่มาจากบ่อขยะ
โดยชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีลูกสาววัย 2 ขวบ ที่เคยล้มป่วย จนต้องเข้าโรงพยาบาลนานถึง 3 วัน ซึ่งในช่วงที่ลูกสาวล้มป่วยมีอายุเพียง 4 เดือน แต่ต้องเจอกับสภาวะมลพิษทางอากาศ รวมถึงกลุ่มแมลงวัน ที่บินมาตอม ทำให้ลูกมีอาการท้องเสีย มีไข้สูง หลังออกจากโรงพยาบาล คุณหมอแนะนำ ให้ลูกหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งที่มีฝูงแมลงวันหรือกลิ่นเหม็นรบกวน ทำให้ทุกวันนี้ตนเองต้องเลี้ยงลูกอยู่ภายในบ้านที่ปิดมิดชิด พยายามหลีกเลี่ยงการออกไปด้านนอกบ้านเพราะอาจจะเจอกับ กลิ่นเหม็นรวมถึงฝูงแมลงวันได้ ตนอยากฝากไปถึง เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาบ่อขยะแห่งนี้ให้เรียบร้อย เพื่อที่ชาวบ้านรวมถึง บรรดาเด็กๆในชุมชนจะได้สามารถมีชีวิต ได้อย่างปกติสุข ไม่ต้องเสี่ยงที่จะป่วยเหมือนเช่นทุกวันนี้
ขณะเดียวกัน นางสาวสุกัลญา ไผ่สอาด อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาบ่อขยะ ของทางอบต. แก่งเสี้ยน ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งแผนการแก้ไขปัญหาเรื่องของน้ำเสียจากบ่อขยะ ทางอบต.ได้มีการขุดลำราง ล้อมรอบพื้นที่บ่อขยะ โดยมีแผนที่จะให้น้ำเสียจากบ่อขยะไหลไปรวมในบ่อกักเก็บ ซึ่งเป็นบ่อเก่าที่ชาวบ้านไม่ได้ใช้แล้ว
แต่ชาวบ้านเห็นว่า การดำเนินการในลักษณะนี้น้ำเสียที่มีจำนวนมากจากบ่อขยะไม่สามารถกักเก็บไว้ในบ่อเดิมได้เพียงพอ และมีความเสี่ยงที่น้ำจะล้นทะลักจนไหลลงสู่ลำรางสาธารณะ และจะส่งผลเสียต่อน้ำในลำธารสาธารณะ อีกทั้งการขุดลำรางรอบพื้นที่บ่อขยะ ยังทำให้ถนนที่ชาวบ้านเคยใช้สัญจรไปมา ระหว่างพื้นที่ได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ จึงมีการร้องไปยังอบต.แก่งเสี้ยน ให้หยุดการดำเนินการ ซึ่งทางอบต.ก็ได้หยุดการดำเนินการไว้ชั่วคราวและจะมีการหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อีกครั้ง
ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องของกลิ่นเหม็นและแมลงวันจากบ่อขยะ ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดพ่นน้ำยาบริเวณกองขยะ แต่น้ำยาที่นำมาฉีดพ่น ไม่ได้เป็นน้ำยาสำหรับกำจัดยุงหรือแมลงวัน แต่เป็นเพียงการฉีดพ่นเพื่อไล่ยุงและแมลงวันจากบ่อขยะให้ออกไป ซึ่งกลายเป็นเหมือนกับไล่ยุงและแมลงวันออกจากบ่อขยะให้ไปยังบ้านชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงบ่อขยะ
ทุกวันนี้ ชาวบ้านต้องหาวิธีป้องกันตนเองจากยุงและฝูงแมลงวันที่รบกวนและเป็นพาหะของเชื้อโรคจำนวนมาก จึงอยากที่จะให้ทางอบต.แก่งเสี้ยน ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่หาวิธีจัดการที่ได้ผลและไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ส่วนเรื่องของบ่อขยะที่มีการทิ้งร้างมานานเกือบ 3 ปี ชาวบ้านก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการหาวิธีจัดการกับขยะเหล่านี้ให้ได้ผล เพื่อที่ชาวบ้านจะไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงฤดูร้อนชาวบ้านก็ต้องเป็นกังวลกลัวว่าจะเกิดไฟไหม้บ่อขยะ พอถึงฤดูฝน ชาวบ้านก็ต้องเป็นกังวลกับเรื่องของน้ำเสียและกลิ่นเหม็นจากบ่อขยะที่ไหลออกมาจนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก.