เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จ.นครพนม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก ป.ป.ส. และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้เดินทางไปรับมอบตัว นายปิยะนันท์ บุญพันธ์ อายุ 37 ปี ชาว จ.สกลนคร ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่หลบหนีหมายจับไปอาศัยอยู่ใน สปป.ลาว นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ติดตามพฤติกรรมของนายปิยะนันท์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 พบว่ามีบทบาทเป็นผู้จัดหาและติดต่อประสานงาน ระหว่างเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวไทยและ สปป.ลาว โดยใช้ สปป.ลาว เป็นเส้นทางหลักในการ ลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยความร่วมมือกับ บช.ปส. ทาง ป.ป.ส. จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับนายปิยะนันท์ ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)” และ “สมคบโดยการตกลงกันเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด”

การจับกุมนายปิยะนันท์ ครั้งนี้ สืบเนื่องจากคดีเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดยาบ้าได้ถึง 7,970,000 เม็ด บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 เส้นทางบุรีรัมย์-นครราชสีมา หมู่ 7 บ้านหนองนกกวัก ต.จักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา นายปิยะนันท์ ถือเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทในฐานะผู้สั่งการ และได้รับส่วนแบ่งจากการซื้อขายยาบ้าสูงถึง 5-10% ของปริมาณยาเสพติดทั้งหมดที่หมุนเวียน

หลังถูกออกหมายจับในไทย นายปิยะนันท์ ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ใน สปป.ลาว และผันตัวเองเป็นผู้ประสานงานการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จัดส่งยาบ้าจำนวนมากลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยอย่างต่อเนื่อง การติดตามจับกุมตัวจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ สปป.ลาว ซึ่งนายปิยะนันท์ เป็น 1 ใน 21 ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญตามโครงการประกาศสืบจับ ประจำปี 2568 ที่ทางการไทยได้ร้องขอให้ สปป.ลาว ช่วยติดตามและส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ในการประชุมทวิภาคีไทย-ลาว ระดับรัฐมนตรี เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ที่นครหลวงเวียงจันทน์

การจับกุมตัวนายปิยะนันท์ในครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้ปริมาณยาบ้าที่ลักลอบนำเข้าประเทศไทยผ่านพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลงได้ถึง 5-10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมบุคคลในเครือข่ายของนายปิยะนันท์ที่เหลือ เพื่อเป้าหมายในการกวาดล้างเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญนี้ให้หมดสิ้นไปอย่างเด็ดขาด