นาทีนี้ต้องยกให้เป็นซีรีส์ที่ถูกพูดถึงทุกวงการเลยทีเดียว สำหรับ “สงคราม ส่งด่วน” ที่ออนแอร์ทาง Netflix ที่บ้าระห่ำ ทำให้หลายคนที่กดเข้าไปดูถึงกับวางตาหยุดแทบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องราวที่แฝงความจริง และถูกนำมาตีแผ่ผ่านผู้กำกับอย่าง “ไก่ ณฐพล” ผู้ขึ้นชื่อในด้านการทำสารคดี จนหลายคนวางใจได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้นอกจากความเรียลจากชีวิตของคนต้นเรื่อง “คมสันต์ แซ่ลี” ก็จะได้เห็นความเรียลในด้านความบันเทิงที่ถูกประกอบสร้างมาจนต้องกลับไปพลิกหนังสือหาประวัติเจ้าของเรื่องว่าอันไหนจริง อันไหนถูกเติมแต่ง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าจะในหนังหรือชีวิตจริงก็มันบ้าพลังไม่ต่างกัน

โดยซีรีส์เรื่องนี้ ไก่ ณฐพล ผู้กำกับและเขียนบท เผยว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงจากบริษัท startup ที่ได้ชื่อว่าเป็น ยูนิคอร์น ตัวแรกของประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จ บริษัท startup ที่มีมูลค่าทางธุรกิจมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 31,000 ล้านบาท

หลังจากที่ปล่อยทีเซอร์ออกมาก็กลายเป็นประเด็นฮือฮาจับโยงกันทันที หรือว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทขนส่งอย่าง Flash Express หรือเปล่า เพราะสีเสื้อของตัวละครช่างตรงเป๊ะกันเสียเหลือเกิน ก่อนที่หลายๆ คนจะสืบหาประวัติจนพบว่าเรื่องราวชีวิตของ“คมสันต์ แซ่ลี” CEO ผู้ก่อตั้ง Flash Express ตรงกับเรื่องราวในซีรีส์เกินว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ชนิดที่ว่าชื่อจริงของพระเอกในเรื่องอย่าง “สันติ” ยังใช้นามสกุล “แซ่ลี” อีกด้วย

โดยสงคราม ส่งด่วน เล่าถึงชีวิตของ สันติ เด็กชายผู้ยากจนจากดอยวาวี ที่มีความฝันอยากจะหนีจากชีวิตยากลำบาก มีชีวิตที่สุขสบาย โดยมีสกิลภาษาจีนที่ติดตัวจากแม่มาตั้งแต่เด็ก รวมถึงสมองที่มองการณ์ไกล ไม่ท้อต่อความลำบาก จากสกิลภาษาจีนที่มีทำให้สันติ ได้ทำงานคลุกคลีกับคนจีนและจับจุดได้ว่าธุรกิจขนส่งในไทย ยังมีพื้นที่ให้เขาได้ลงสนามนี้ ระหว่างทางของการเริ่ม สันติ ได้เจอกับสมาชิกอีกสองคนอย่าง เสี่ยวหยู และ รุ่ยเจี๋ย ผู้เป็นสมองและระเบิดของบริษัท แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่บริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ จะไปเบียดพื้นที่สู้กับเจ้าใหญ่ในวงการได้ จึงกลายเป็นการต่อสู้กันบนสนามธุรกิจระหว่าง สันติ และเจ้าสัวคณิน เพื่อชิงความเป็นที่หนึ่งด้วยการชิงไหวชิงพริบ สู้ยิบตากับอำนาจมืด และความบ้าของตัวละครที่ทำให้ผู้ชมตบเข่าฉาด อุทานลั่นว่ามันต้องอย่างนี้สิ

ซึ่งในเรื่องจะได้เห็นส่วนหนึ่งในชีวิตจริงของ คมสันต์ เจ้าของเรื่อง ที่ถูกนำมาปรับแต่งใส่สีตีไข่ให้เรื่องราวมันนัว ดุดัน บ้าพลัง ผ่าน สันติ จึงทำให้เรื่องนี้มีความเข้มข้นขึ้นทุกอีพี อีกทั้งยังสะท้อนในแง่ของธุรกิจที่ทัชใจเหล่าผู้มีความฝันอยากเป็นสตาร์ทอัพได้อย่างดี จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์และประโยคที่กลายเป็นโควทคำคมสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คน ได้เห็นคุณค่าของการลงแรงในการทำงาน อย่างประโยคหนึ่งที่ “ไก่ ณฐพล” ได้เล่าว่าคือจุดเปลี่ยนชีวิตของลูกน้องเขา คือประโยคที่ว่า “ถอนขนไก่กับขนนกกระจอก ใช้เวลาเท่ากัน แต่ไก่ได้เนื้อเยอะกว่า” สะท้อนให้เห็นว่า เวลามีค่า เลือกเป้าหมายให้ถูกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

มุมของการชิงไหวชิงพริบในซีรีส์เรื่องนี้คือจุดความมันที่ทำให้เรื่องน่าสนใจผ่านตัวละคร เจ้าสัวคณิน ตาเฒ่าจอมฉกฉวย ตีแผ่ว่าโลกบนความเป็นจริงไม่ได้สวยและโรยด้วยกลีบกุหลาบ ชนิดที่ว่าเป็นขวากหนามที่ทำให้ สันติ ต้องสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งคนเขียนบทได้ใส่ดีเทลความร้ายของ เจ้าสัวคณิน จากเรื่องจริงของ คมสันต์ หลังตัดสินใจดีลกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน แต่หลังจากช่วยสุดฝีมือก็ถูกถีบตกขบวนรถไฟ จนกลายเป็นความขุ่นแค้นและเป็นจุดเริ่มต้นให้คมสันต์ คิดเปิดบริษัทสู้นั่นเอง

หลังจากที่ซีรีส์เรื่องนี้ออนแอร์ไปนั้น บอกเลยว่ากระแสตอบรับตีเกินความคาดหมาย ด้วยความอินของคุณผู้ชมก็พากันตามหาความจริง ว่านอกจาก สันติ ที่เป็นตัวแทนของ คมสันต์ นอกจากนั้นตัวละครอื่นๆ คือใครกันบ้าง หลายคนเดาว่า เสี่ยวหยู ผู้ดูแลบัญชีการเงินของบริษัทนั่นก็คือ Malee saeyang และในส่วนของ รุ่ยเจี๋ย ตัวละครดูแลไอทีปากแซ่บของบริษัท ด้านคมสันต์ ก็ได้ออกมายืนยันว่าคือ เหว่ย เจี๋ย พร้อมออกตัวแรงว่าตัวจริงปากจัดกว่าในซีรีส์ อีกทั้งคลิปสัมภาษณ์ชีวิตจริงของ คมสันต์ ที่เคยพูดไว้ก็กลายเป็นไวรัล จนได้ทราบว่าเรื่องไหนบ้างที่ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในซีรีส์

จากเรื่องจริงสร้างแรงบันดาลใจ จนกลายเป็นซีรีส์ที่สะท้อนชีวิตให้ข้อคิดควบคู่กับความบันเทิง จนหลายคนถึงขั้นอินจัด เพราะเป็นเรื่องราวที่จับต้องได้ เชื่อว่าสักครั้งหนึ่งผู้ชมคงต้องเคยใช้บริการขนส่งสินค้ากัน เรื่องนี้ได้สะท้อนปัญหาของผู้ใช้บริการขนส่งสินค้า รวมถึงมุมมองปัญหาที่เกิดขึ้นหลังบ้านของบริษัทขนส่ง ทำให้ทัชในความรู้สึกของผู้ชมกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากมาย เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จทั้งผู้จัด นักแสดงหลักและสมทบ รวมถึงคนต้นเรื่อง จากซีรีส์สงคราม ส่งด่วน ที่ตอนนี้ใครไม่ดูบอกเลยว่าพูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง

ทีมข่าวบันเทิง