การประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ วันที่ 6 มิ.ย. 68 ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีวาระสำคัญ ในเรื่องการประมูลลิขสิทธิ์ไทยลีก รวมทั้งกรณีสโมสรไทยลีกส่วนใหญ่ มีความเห็นแยกจัดตั้ง บริษัท ไทยลีก

สำหรับเรื่องประมูลลิขสิทธิ์ ที่มี 3 บริษัทยื่นประมูล คือ บริษัท ไบรท์ นาว จำกัด (TrueVisions Now), บริษัท ไมโม่เทค จำกัด ร่วมกับ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (AIS-JAS) และ บริษัท บีจี สปอร์ตส์ จำกัด (BG Sports)

หลังการประชุม “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่าผู้ที่ให้ค่าลิขสิทธิ์สูงสุด ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด มหาชน, บริษัท กัลฟ์ ดีวีลอปเมนต์ จำกัด มหาชน และ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AIS-GULF-JAS เป็นเงินให้ปีละ 350 ล้านบาท เวลา 4 ปี (1,400 ล้านบาท) บวกข้อเสนอ 2 ปี และจะรับผิดชอบการผลิต โปรดักชั่นทั้งหมด รวมถึง ไทยลีก 2 และจะถ่ายไทยลีก 3 ให้มากที่สุด รวมทั้งฟุตบอลลีกหญิง, เอฟเอคัพ และลีกคัพ

สำหรับค่าผลิตนั้น อยู่ที่ปีละ 150 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ ต้องจ่ายในส่วนนี้ ดังนั้น ค่าลิขสิทธิ์ จึงรวมแล้วปีละ 500 ล้านบาท เมื่อรวม 4 ปี อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ จัสมิน จะนำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาเซ็นสัญญากับสมาคม เพื่อพัฒนาปรับปรุง ไทยลีก 1, เรื่องกรรมการ, อคาเดมี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้เรื่องลิขสิทธิ์ จะแถลงข่าววันที่ 10 มิ.ย.

ส่วนเงินสนับสนุน เพิ่มทุกลีก ไทยลีก 1 จากเคยได้ปีละ 10 ล้านบาท เป็น 15 ล้านบาท, ไทยลีก 2 จากปีละ 3 ล้านบาท เป็น 4 ล้านบาท, ไทยลีก 3 จากปีละ 1 ล้านบาท เป็น 1.25 ล้านบาท

มาดามแป้ง ยังกล่าวถึงช่วงก่อนหน้านี้ ที่ไทยลีกไม่มีผู้ถือลิขสิทธิ์ จนสโมสรต้องบริหารจัดการเอง จนถึงตอนนี้ที่ขายลิขสิทธิ์ได้

“แป้งก็ใกล้ตายแล้ว ในการเจรจามันเหนื่อย ก็ได้ลิขสิทธิ์ 4 ปี บวก 2 ปี เป็นการันตี ทุกทีมก็เดือดร้อน จึงให้เงินสนับสนุนสโมสรเพิ่ม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ มาดามแป้ง มีสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ไทยลีกนั้น เมื่อแถลงจบ มาดามแป้ง พยายามถามผู้สื่อข่าวว่า “ถือว่าเป็นข่าวดีหรือไม่”