กรณีเรื่องราวดราม่าวงการศึกษาของไทย โดยเฉพาะเรื่องราวของคุณครู หลังมีการพบเอกสารราชการ แต่งตั้ง “ครูพรพิมล” แค่คนเดียวควบรวม 4 ตำแหน่ง แถมคนเซ็นอนุมัติก็คือตัวเองอีก เป็นรักษาการ ผอ. ทั้งที่บรรจุได้แค่ 1 ปี และมีตำแหน่งแค่ “ครูผู้ช่วย” จนกลายเป็นที่วิจารณ์ไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์นั้น

4ตำแหน่งหรือจะสู้? ‘ครูราเมศร์’ควบ15ตำแหน่ง จัดเต็มหัวหน้ากลุ่ม8วิชา!
เป็นงง! เอกสารตั้ง ‘ครูพรพิมล’ ควบ4ตำแหน่ง แถมเป็นรักษาการผอ. ทั้งที่บรรจุได้แค่1ปี

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนวัดเกศแก้ว หมู่ 4 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว อยู่ห่างจาก รพ.วังน้ำเย็น ไม่ถึง 100 เมตร พบกับ น.ส.พรพิมล ศรีพลนอก ตำแหน่งครูผู้ช่วยโครงการครูคืนถิ่น จบเอกภาษาไทย เพิ่งบรรจุเป็นข้าราชการครูได้เพียง 1 ปีเท่านั้น ปัจจุบันต้องรักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนวัดเกศแก้ว และทุกตำแหน่งในโรงเรียน เพราะทั้งโรงเรียนเหลือครูแค่ 2 คน คือตัวเธอเองกับครูธุรการอีก 1 คน ดูแลนักเรียนทั้งหมด 40 คน

สาเหตุที่ทั้งโรงเรียนเหลือครูอยู่แค่ 2 คนนั้น ก็เพราะจากเดิมที่โรงเรียนนี้มีครูอยู่ 5 คน โดยนายยุทธนา อุนาศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนคนเก่า กับครูผู้สอนอีกคน ขอย้ายกลับภูมิลำเนา และครูเกษียณอายุราชการอีก 1 คน โดยตอนนี้หลังเปิดเทอมได้ 1 สัปดาห์ ก็มีครูเกษียณที่เพิ่งเกษียณแวะเวียนมาช่วยสอนชั้น ป.5 และ ป.6 ทำให้ครูพรพิมล ต้องรักษาการตำแหน่งดังกล่าวต่างๆ ด้วยทุกตำแหน่ง โดยมี นายกล่ำ หาโกสีห์ ผอ.โรงเรียนอนุบาลวังน้ำเย็นมิตรภาพที่ 179 ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มเครือข่าย ช่วยดูแลและให้คำปรึกษาอยู่ในปัจจุบัน

น.ส.พรพิมล เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ภายหลังเกิดกระแสดังไปทั่วทั้งโลกโซเชียล เนื่องจากมีครูอย่างน้อย 1 ราย ที่ประกาศลาออกจากอาชีพข้าราชการครู เพราะแบกรับภาระไม่ไหวไปก่อนหน้านี้ โดยสาเหตุที่เธอโพสต์กรณีนี้ออกไปเพราะ เมื่อวันเสาร์ได้เข้าร่วมอบรมครูคืนถิ่น ก็เลยบอกกับครูธุรการว่า เรายังไม่ได้ทำคำสั่งหัวหน้า 4 ฝ่าย เพราะว่า เมื่อตอนเปิดเทอมได้ทำคำสั่งประชุมผู้ปกครองไปแล้ว ก็เลยทำคำสั่งหัวหน้า 4 ฝ่ายออกมา และเป็นข่าวอย่างที่เห็น แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปพาดพิงถึงองค์กรเลย

“ไม่ได้หมายถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ ก็เข้าใจว่า อยู่ในช่วงรอยต่อที่เขตพื้นที่จะจัดสรรคนมาให้ ซึ่งล่าสุด สพป.หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 จะมีการเพิ่มอัตรากำลังคน 4 อัตรามาให้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบ แต่ก็รู้สึกดีใจที่จะได้ครูมาช่วย เพราะตอนนี้ อยู่กับคุณครูธุรการและได้ไปขอให้คุณครูที่เกษียณไปเมื่อเดือน ก.ย.64 มาช่วยสอน ถามว่ามันหนักไหม สำหรับตัวเองมันก็หนักอยู่นะ สอน ป.1, ป.2, ป.3, ป.4 และตอนนี้ทิ้งเด็ก ป.1, ป.2 ไม่ได้เลย บางครั้งก็ท้อ บางทีสอน ป.1 ป.2 อยู่ แล้วเด็ก ป.3 และ ป.4 ก็เรียกคุณครูขา คุณครูขา ก็ต้องรีบวิ่งเพื่อมาสอน ก็ยังดีได้คุณครูธุรการมาช่วยดูแลการสอนวิชาอื่น เพราะครูจบเอกภาษาไทย แต่อย่างว่า โรงเรียนประถมได้สอนทุกวิชา มันจึงมีแบบท้อนิดนึงในบางครั้ง” ครูพรพิมล กล่าว

ครูพรพิมล กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อว่า ว่าทำไมหน่วยงานไม่ส่งครูมาช่วย แต่ตอนนี้ดีใจที่ต้นสังกัดจะส่งบุคลากรมาเพิ่ม จึงอยากฝากขอโทษหน่วยงานต้นสังกัด เพราะด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนเองด้วย ซึ่งสิ่งที่ตนเองได้จากการโพสต์อย่างหนึ่งคือ ยังมีอีกหลายๆ โรงเรียนที่เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่เจอปัญหาเหมือนกัน เช่น เพื่อนของตนเองที่เจอปัญหาเหมือนกัน ที่ได้รับการบรรจุเป็นครูคืนถิ่น ก็ได้รักษาการในตำแหน่งต่างๆ นี้เหมือนกัน โดยนักเรียนในโรงเรียนวัดเกศแก้ว ปัจจุบันมีนักเรียน 40 คน ซึ่งตนเป็นข้าราชการครูคนเดียวในโรงเรียน และมีครูธุรการอีก 1 คน เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงเรียนวัดเกศแก้ว อ.วังน้ำเย็น ภายหลังเกิดกระแสดังกล่าวในโลกโซเชียล ทางโรงเรียนยังคงจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1-3, ป.1-4 และ ป.5-6 ตามปกติ ซึ่งตลอดทั้งวันหลังโรงเรียนนี้กลายเป็นกระแสดัง ทีมผู้บริหารจากโรงเรียนกลุ่มเครือข่าย นำโดย นายกล่ำ หาโกสีห์ ผอ.โรงเรียนอนุบาลวังน้ำเย็นมิตรภาพที่ 179 และผู้บริหารจากโรงเรียนคลองตาสูตร โรงเรียนบ้านวังบูรพา และโรงเรียนใกล้เคียง ได้เดินทางเข้าให้กำลังใจ น.ส.พรพิมล และครูภายในโรงเรียน พร้อมรับปากจะช่วยกันหาทางแก้ไข เพื่อแบ่งเบาภาระของครูที่เหลืออยู่ ภายหลังโรงเรียนนี้เปิดการเรียนการสอนแบบ On Site ได้เพียง 1 สัปดาห์.