จากกรณี มีพลเมืองดีประสานตำรวจตรวจสอบกล่องใส่เงินจำนวน 12 ล้านบาท หลังพบว่าถูกทิ้งอยู่ใน คอนโดเมืองทองธานีตึก P2 ชั้น4 โซนC ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งต่อมามี นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ทนายความและเป็นที่ปรึกษากรรมการ กสทช. อ้างว่าเป็นเจ้าของเงินตัวจริงเข้ามาแสดงตัว พร้อมให้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับเงินคืน ทั้งยังระบุว่า เงินดังกล่าวอยู่ในกล่องที่โดนน้ำท่วม จึงนำเอากล่องไปวางไว้ตรงจุดใกล้ ๆ กับห้องพัก เพื่อรอให้ฝ่ายนิติตรวจสอบซ่อมแซมน้ำที่รั่ว แต่มีคนมาไปเจอกล่องใส่เงินดังกล่าว จึงรีบเดินทางมาแสดงตัวในทันที

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา นายทวีวัฒน์ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อให้ข้อมูลนานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับ ขณะที่ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า ข้อมูลเบื้องต้นเป็นไปตามที่ นายทวีศักดิ์ ได้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ตำรวจก็อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดในเอกสารหลักฐานที่นำมาแสดง เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเจ้าของเงินที่แท้จริงหรือไม่

รวมถึงต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งได้ประสานกับธนาคารเข้ามาตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะทราบผลภายใน 3-4 วัน ส่วนเงิน 12 ล้านบาท ตำรวจได้เก็บไว้ในห้องขังของ สภ.ปากเกร็ด อย่างดีมีสิบเวรเฝ้าตลอด 24 ช.ม. ส่วนกล่องพลาสติกสีเทาที่เก็บเงิน ได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝงแล้ว

ด้าน น.ส.บัว หนึ่งในสามคนที่พบกล่องใส่เงิน กล่าวว่า ตนดีใจที่มีคนออกมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงินตัวจริง เพราะเงินเยอะมาก อยากให้เจ้าของเงินตัวจริงรับเงินคืนไป และฝากบอกว่า เวลาจะทิ้งของให้ตรวจสอบดูให้ดี ๆ ก่อน ยังดีที่ตนและเพื่อนเห็นเข้า ถ้าเป็นคนอื่นก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ เพราะคนเราสมัยนี้คิดไม่เหมือนกัน.