พ.อ.รวิรักษ์ สัตตบุศย์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช (ฉก.พญานาคราช) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินการออกใบรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกรมวิชาการเกษตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสวมสิทธิ์ GAP ของเกษตรกรภายในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ว่า ได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการสวมสิทธิ์ใบรับรอง GAP พร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์     จะเร่งยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการสวมสิทธิ์ใบรับรอง GAP ทุเรียนส่งออกไปจีน โดยเตรียมติดตั้งระบบ Digital Traceability Platform เป็นแพลตฟอร์มกลางเชื่อมโยงข้อมูลจากสวนทุเรียน โรงคัดบรรจุ (ล้ง) ไปถึงระบบปลายทางของ GACC ของจีน เพื่อเสริมความเข้มแข็งในการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในทุกกระบวนการผลิต

 ขณะเดียวกันจะจัดโครงการตรวจประเมินและอบรมโรงคัดบรรจุ (Factory Audit) ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลส่งออก เพื่อยกระดับมาตรฐานโรงคัดบรรจุและเสริมความรู้ด้านการควบคุมคุณภาพ รวมทั้งจัดตั้ง Task Force พิเศษ ร่วมปฏิบัติการเชิงรุกกับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการสืบสวน ป้องกัน และปราบปรามการปลอมแปลงเอกสาร และขบวนการผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสวมสิทธิ์ ส่งเสริมให้การส่งออกทุเรียนไทยมีมาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและคู่ค้าในตลาดโลกอย่างยั่งยืน

ภายหลังการประชุมได้มีการแบ่งทีมออกเป็น 4 ทีม เพื่อตรวจการดำเนินกิจการและตรวจเอกสารของล้ง      3 แห่ง คือ 1. ทุเรียนในตำนาน 2. พร้อมพงศ์ และ 3. เจ้อ้อย จากนั้นได้มีการประชุมหารือสรุปผลการตรวจสอบล้งทั้ง 3 แห่ง พบว่ามีการสวมสิทธิ์ GAP จริง ทั้งจากการซื้อ จากผู้รวบรวม หรือซื้อจากร้านตั้งแผง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเอกสารพบว่ามีความพยายามจะปลอมแปลงเอกสารเพื่อสวมสิทธิ์ ทั้งนี้ จากข้อมูลทั้งหมดจึงมีความจำเป็นต้องให้ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 บังคับใช้กฎหมายระงับหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชของโรงงานผลิตสินค้าพืช (ล้ง) (ใบ DOA) ชั่วคราว และให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัดต่อไป