การประชุมสัมมนา “ฟอรั่มอารยธรรมแห่งความปรองดอง ประจำปี 2025” มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนทางวิชาการด้านอารยธรรมและวัฒนธรรม ในการประยุกต์ใช้ “ขงจื๊อ” ปรัชญาความปรองดองแห่งตะวันออก สร้างความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย ตลอดจนสร้างฉันทามติ เพื่อสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และก้าวสู่อนาคตอันสดใสร่วมกัน ซึ่งหัวข้อหลักของการประชุมในปีนี้คือ ความสามัคคีและการอยู่ร่วมกัน การขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองและความก้าวหน้าของอารยธรรม

นายพินิจ จารุสมบัติ

นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกสภาสหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาว่า การประชุมสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นการเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญต่อภูมิภาคเป็นอย่างมาก ในการสร้างสันติภาพ ความสมานฉันท์ และนับเป็นการผลักดันสร้างอารยธรรมให้รุ่งเรืองก้าวหน้า

นางซุน ชุนหลาน

ขณะที่ นางซุน ชุนหลาน ประธานสหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ กล่าวว่า ฟอรั่มอารยธรรมแห่งความปรองดอง มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ ความปรองดอง และความสามัคคีระหว่างไทยกับจีน รวมถึงแสวงหาความร่วมมือ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและสมดุล ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในสังคมและสิ่งแวดล้อม และสร้างอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ

นายภูมิธรรม เวชยชัย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศไทย กล่าวแสดงความขอบคุณฟอรั่มครั้งนี้ ซึ่งมีขึ้นในช่วงเวลาที่โลกเผชิญกับคลื่นความขัดแย้ง ทั้งภายในรัฐและระหว่างประเทศ เนื่องจากเวทีการประชุมสัมมนา ถือเป็นพื้นที่ในการส่งเสริมความเข้าใจ การรับฟัง และการเคารพซึ่งกันและกัน อันเป็นหนทางสู่การอยู่ร่วมกันด้วยความปรองดอง

นายวิษณุ เครืองาม

ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์ว่า การจัดฟอรั่มอารยธรรมแห่งความปรองดองที่ไทยในปีนี้ นับว่าเป็นความเหมาะสมอย่างยิ่ง ในการสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ที่สะท้อนให้เห็นถึงสายสัมพันธ์แห่งความปรองดอง ซึ่งดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน 50 ปี พร้อมกับเน้นย้ำถึงแนวคิดหลักของการประชุมสัมมนาครั้งนี้ นั่นคือ “แตกต่าง แต่ไม่แตกแยก“

นายหวัง เชา

ด้านนายหวัง เชา ประธานสมาคมการทูตประชาชนจีน กล่าวปราศรัยว่า ฟอรั่มอารยธรรมแห่งความปรองดอง สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในภาพรวม ดำเนินมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปีแล้ว โดยเขาคาดหวังว่า ทั้งไทยและจีน สามารถสืบทอดมิตรภาพอันดีงาม แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประเพณี อยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง และนำประโยชน์มาสู่ทุกฝ่ายได้

นายหาน จื้อเฉียง

นอกจากนี้ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การประชุมสัมมนาครั้งนี้ ถือเป็นการตอบรับข้อเสนอการเสวนาอารยธรรม ซึ่งการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนกับวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมจุดร่วมหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความหลากหลาย ความเท่าเทียม ความปรองดอง และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อีกทั้งจีนและไทย มีความสัมพันธ์มานานนับพันปี และวัตถุประสงค์ของฟอรั่มอารยธรรมแห่งความปรองดองในปีนี้ มีความสำคัญในการนำไปปฏิบัติ เพื่อเพิ่มความเข้าใจและความไว้วางใจ รวมถึงทำให้ความสัมพันธ์ไทย-จีน แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.