จากกรณีที่ “ตั้ม วราวุธ” นักร้องนักแสดงชื่อดังจากบ้าน The star ที่ประสบอุบัติเหตุขณะขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน เมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค. 68 บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา 32 เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดในงานแถลงข่าวโครงการ “BUFF TO BUILD NUMBER ONE” โครงการความร่วมมือด้านอีสปอร์ตเพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชน ซึ่งงานดังกล่าวเป็นอีเวนต์ครั้งแรกของหนุ่มตั้มหลังประสบอุบัติเหตุ อีกทั้งตนได้เปิดใจหร้อมอัปเดตอาการว่า

”สำหรับเรื่องประสบอุบัติเหตุถ้าอัปเดตตอนนี้ แผลข้างในไหมยังละลายไม่หมด ส่วนข้างนอกเย็บเป็นปกติได้มีการตัดใหม่ไปแล้วประมาณอาทิตย์กว่า ก็ยังมีเจ็บๆ ตึงๆ อยู่ โดยรวมตอนนี้จาก 100% ผมว่าดีขึ้นประมาณ 70% แล้ว คือข้างนอกยังโอเคมากๆ ผมทำทุกอย่างที่จะให้ทำงานได้เร็วขึ้น ก็เลยมีการไปฉีดสเต็มเซลด้วย และไปหาหมอฟันเพราะฟันหน้าผมหายไปเลยสามซี่ ผมเลยต้องไปใส่วีเนียร์ชั่วคราวเพราะวีเนียร์ปกติใส่ไม่ได้ ซึ่งตรงแผลที่ปากยังไม่สมบูรณ์ ส่วนแผลในจมูกตอนนี้ถ้าโดนเยอะๆ ก็ยังเจ็บอยู่เพราะว่าดั้งแล้วหัก และแผลที่ฉีกคือมันฉีกแบบเห็นฟันเลย ดังนั้นเวลาเย็บกลับมามันเหมือนตรงกลางมันยังไม่สมานและมันก็ยังแข็งเป็นไตๆ อยู่เวลาโดนอะไรแรงๆ ก็ยังรู้สึกเจ็บ

ในเรื่องของจมูกเราแค่ดัดกลับ ส่วนปากคือผมโชคดีที่ได้หมอศัลอันดับหนึ่งของโรงพยาบาล เขาก็เย็บให้ ซึ่งหลายคนก็ชมว่าแผลสวย ขอบคุณคุณหมอมากๆ ส่วนร่างกายส่วนอื่นก็จะมีแขนในวันที่ผมประสบอุบัติเหตุวันแรก แขนข้างซ้ายผมไม่สามารถยืดได้ เหมือนมันช้ำที่เอ็นข้อศอก ตอนนี้ก็กายภาพและไปฉีดสเต็มเซลเข้าที่ข้อศอกมาแล้ว ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากเกือบ 100% แล้ว

โดยเหตุการณ์ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในชีวิตเลยครับ  เพราะว่ามันจะมีเหตุการณ์ที่มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ คือจ๊ะเอ๋เราตั้งตัวไม่ทันรู้สึกตัวอีกทีก็มีคนเข้ามาพยุงเรา พอรู้สึกตัวแล้วคือมันชา ตอนแรกมันปะกันเลย พอผมลุกขึ้นมาผมรู้สึกชาแบบไม่รู้สึกเจ็บ ไม่รู้ว่าตัวเองเลือดออก จนพี่ที่เขามาพยุงผม เขาบอกว่าน้องเดี๋ยวไปนั่งข้างทางก่อนเพราะเลือดออกเยอะมาก พอเราก้มดูเลือดมันไหลออกมา เราก็เลยเช็คฟันเราก่อนคือมันไม่รู้สึกนะแต่รู้ว่ามันเป็นตอ ผมก็เลยถามพี่เขาว่า พี่หน้าผมเป็นอะไรบ้าง เขาตอบกลับมาว่ามันมองไม่ออกเลยเพราะเลือดมันชุ่มมาก จน “หมวย” แฟนผมมาที่เกิดเหตุ ผมก็ถามว่าหน้าเป็นยังไงบ้าง เขาก็พยายามปลอบใจเรา แค่ถลอก แต่คุณป้าข้างข้างที่มาช่วยบอกว่าฉีกเลยลูก ผมก็บอกว่าฉีกเลยหรอ ใจตอนนั้นคือฉีกขั้นไหน ผมเลยเซลฟี่ตัวเองแต่ก็มองไม่ออกเพราะว่าเลือดมันกลบปาก แต่คุณป้ามองออกว่าฉีก แล้วตอนนั้นผมไม่สามารถนอนได้ เพราะตอนที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเขาก็ให้เรานอนแต่เรานอนไม่ได้เพราะปวดหัวมาก ก็เลยคิดว่าเราจะสูญเสียความทรงจำไหม กลัวว่าสมองจะไม่เหมือนเดิม“

ตั้ม เล่าต่อว่า ”ตอนนั้นพอเข้ามาข้างทางผมเลือกที่จะโทรหาหมวยก่อน  แต่นั่งคิดก่อนว่ารถชนตรงไหนจำไม่ได้ว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน แม้กระทั่งมีป้ายอยู่ข้างหน้านะ ก็นึกไม่ออกว่าตรงไหนก็เลยให้พี่ที่เขาช่วยผมคุยกับแฟนว่าเราอยู่ตรงไหนแล้วก็แชร์โลเคชั่นไป พร้อมเซลฟี่และส่งไปให้เขา ทันทีที่ชนถามว่าคิดไหมว่าจะรอดหรือไม่รอด มันไม่มีเวลาคิดเลย ภาพตัดไปเลยรู้ตัวอีกทีคนก็พยุงแล้ว สติสุดท้ายคือจับกำเบรคแต่กำไม่ทัน

สำหรับเรื่องคดีความ กล้องวงจรปิดมีหมดแล้ว แล้วก็ส่วนเรื่องคดีความผมให้ “พ่อ” ผมจัดการ โชคดีที่คุณพ่อเป็นทนายความก็จะเร็วหน่อย คือผมไม่อยากไปโฟกัสเรื่องนี้แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ รถเป็นเลนสวนผมขับตามรถกระบะมา แล้วรถกระบะเลี้ยวเข้าซอยผมก็ต้องขับตรงไปเพราะยังไม่ถึงจุดหมายของผม ซึ่งเราไปด้วยความเร็วคงที่เราไม่ได้แซง เราตรงไปปกติของเราแล้วเค้าออกจากซอยที่รถกระบะเข้าแล้วมันตัดกันพอดี ซึ่งกล้องที่จับได้ก็เป็นภาพนี้เลย ส่วนคู่กรณีตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คุยกัน เห็นมีบอกว่าญาติเขาจะนัดเจอวันที่ 11 คือวันพรุ่งนี้ เพราะจะไปเอามอเตอร์ไซค์ที่สถานีตำรวจ เขาก็เลยจะให้คุยกันพรุ่งนี้ ก็เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้เจอญาติของคู่กรณี

ตอนนี้ก็แจ้งความแล้ว และให้พ่อยื่นโนติส(หนังสือบอกกล่าว) เพราะว่าเขาไม่ได้มีการติดต่อมาเลย ก็อยากจะให้ติดต่อมาหน่อยเราจะได้รู้ว่าจะยังไงกัน พอพ่อยื่นโนติสไปก็มีญาติเขาโทรมา เขาก็บอกว่าทางฝั่งโน้นยังไม่พร้อมที่จะคุยก็เลยจะส่งญาติมาก่อน ซึ่งตอนแรกผมไม่รู้ว่าฝั่งโน้นก็ได้รับความบาดเจ็บ ผมมารู้ในตอนหลัง เพราะมีทางด้านผมพยายามต่อไปว่าทางนั้นเขาเป็นยังไง ผมได้แจ้งทางตำรวจไปว่าทำไมญาติทางโน้นไม่ติดต่อกลับมาเลย ทางตำรวจเลยไปคุยให้จนญาติติดต่อกลับมา เขาก็บอกว่าทางฝั่งของเขาก็สะโพกหัก กระดูกซี่โครงร้าว ส่วนแผลที่ปากของเราคือผมไม่รู้เลยว่ามันโดนอะไร ซึ่งในคลิปก็เห็นว่าล้มท่าไหนเพราะมันมืด ส่วนสภาพรถของผมคือ ล้อหน้าบิด หม้อน้ำและโซนข้างหน้าแตก แล้ววันนั้นคือตลกมาก วันนั้นเป็นวันที่ผมขนของพะรุงพะรังมาก “พี่ไมค์ ภิรมย์พร” ก็เอาน้ำปลาร้ามาให้เต็มไปหมด เชื่อไหมว่าน้ำปลาร้าไม่แตกสักขวด แต่ปากผมแตกสุดยอดมาก(หัวเราะ)

ส่วนอุบัติเหตุในครั้งนี้ก็มีผลกระทบกับงานเราเยอะมาก จริงๆผมจะมีทางพรีเซนเตอร์ตัวนึง ก็เลื่อนถ่าย อีเวนต์สองงานเขาไม่เลื่อนเพราะอีเวนต์ต้องจัด เราก็ต้องคืนเงินกับทางลูกค้าไปสองงาน และงานใหม่ๆ ที่เข้ามาก็รับไม่ได้ ซึ่งเป็นงานร้องเพลง คือมันมีงานที่สำรองไว้อยู่ลูกค้ายังไม่ได้คอนเฟิร์ม พอเกิดเหตุการณ์นี้ลูกค้าก็เลยไม่คอนเฟิร์มแล้ว แล้วตอนนี้ลูกค้าก็ยังไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่ว่าเราจะสามารถร้องเพลงได้เหมือนเดิมไหม อันนี้มันก็กระทบเหมือนกัน ผมก็เลยพยายามบอกว่าร้องไหวนะ เพราะตอนนี้ก็พูดได้ แต่อาจจะต้องพกคอรัสไปคนนึงเพราะว่ารูปปากบางคำอาจจะไม่ค่อยชัด 

ความกังวลในการพูดและการร้องก็มี เบาลง จริงๆก่อนหน้านี้ผมมีงานไปร้องเพลงแล้วงานนึง เพราะลงจากเวทีปั๊บไปโรงพยาบาลเลยเพราะว่ามันอักเสบ เวลาเราร้องก็เต็มที่ ซึ่งปากถามว่ามันอ้าได้เยอะมั้ยมันก็อ้าได้เยอะขึ้น แต่มันจะมีบางคำมันยังติดอยู่นิดหน่อย ถามว่าใช้เวลานานแค่ไหนที่จะกลับมา หมอบอกว่าประมาณสามเดือน แต่นี่สามสัปดาห์ผมทำงานแล้ว คือเราพักไม่ได้เพราะเพราะว่าธนาคารที่เราผ่อนบ้านมันไม่ได้พักกับเรา ส่วนเรื่องกายภาพคือฟื้นฟูได้แต่ภายนอก ส่วนภายในต้องปล่อยมันไป ภายนอกผมต้องไปเข้าเครื่องที่มันทำให้รดบวม ไปฉีดสเต็มเซลให้มันไปฟื้นฟูแผล ทำได้แค่นั้น เพราะว่าจริงๆร่างกายมันก็ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอยู่แล้ว“

นักร้องหนุ่มเผยต่อว่า “ถามถึงงานที่รับไม่ได้ทำให้รายได้หดหายไปเยอะไหม ก็เยอะครับ ถึงหกหลัก คือสามเดือนผมคงไม่ปล่อยให้ตัวเองไม่รับงาน จริงๆผมเริ่มรับงานแล้ว ส่วนเรื่องร้องเพลงก็ไปร้องแล้วงานนึง ณ.วันนี้ คุณหมอเขาบอกผมว่าปากยิ่งมีการขยับยิ่งดี เพราะว่ามันคือกล้ามเนื้ออย่าให้มันตาย สเต็มเซลจะได้วิ่งมากขึ้น ดังนั้นตอนนี้ผมรับงานได้ และสามารถที่จะอ้าปากร้องเพลงออกเสียง ตอบโต้ได้แล้ว ก็อยากจะบอกกับคุณลูกค้าว่า ผมเหมือนคนฉีดฟิลเลอร์แค่นั้นเอง ปากจะเจ่อๆ ซึ่งตอนนี้เรารับได้ทุกอย่าง ก็ไม่ต้องกังวลอะไรผมไปเต็ม 100 แน่นอนสำหรับทุกงาน งานพิธีกรก็ไม่มีปัญหาปกติเหมือนคนฉีดฟิลเลอร์มา และการเอนเตอร์เทนของเราก็เหมือนเดิมและตลกกว่าเดิมด้วยเพราะคนจ้องหน้าเราก็ตลก เพราะตอนนี้เราก็หัวเราะมากไม่ได้มันจะจะเกร็งๆ

การเจอคู่กรณีถามว่าเรามีความในใจที่จะต้องเจรจาแบบไหนและจะเรียกร้องอะไรบ้าง เอาจริงๆนะผมไม่ได้ติดเรื่องไหนเลย ผมติดแค่เรื่องเดียวที่ว่าเขาไม่ได้ติดต่อกลับมา หรือแสดงความเป็นห่วงเป็นใยกัน เหมือนผมต้องบอกกับทางคุณตำรวจและทางของผมว่าลองติดต่อไปไหม ซึ่งเราก็ไม่มีเบอร์ญาติเขาเราเลยต้องถามคุณตำรวจไป ซึ่งผมรู้สึกว่าจริงๆแล้วการแสดงความมีน้ำใจแค่หลักเริ่มต้นของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แสดงความเป็นห่วงกันก็ยังดี อันนี้เรายังไม่พูดถึงเรื่องผิดหรือเรื่องไม่ผิดนะ ผมก็รู้สึกว่าผมก็อยากเอาให้สุดเหมือนกัน เพราะว่าผมก็เสียอะไรไปหลายอย่าง ทั้งโอกาส ทั้งงาน ทั้งเงินที่ผมจะต้องคืนลูกค้าไป แค่ความเป็นเพื่อนมนุษย์เขายังไม่มีให้ผมเลย ดังนั้นผมรู้สึกว่าอะไรที่ผมเรียกร้องได้ผมก็จะเต็มที่ ซึ่งผมเข้าใจ อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ แล้วมันสามอาทิตย์แล้วเกือบสี่ ผมก็เพิ่งจะได้เจอญาติเขาในวันพรุ่งนี้ จริงๆเราไม่ได้ต้องการจะเจอแต่เราต้องการจะโทรถามว่า เป็นยังไงบ้าง เพราะเอาจริงๆลักษณะการชนเขาต้องรู้ว่าเขาผิด แต่อันนี้คือเค้าไม่มีการแสดงอะไรออกมาเลย ผมรู้สึกว่ามันเกินไปมาก

แล้วคนรอบตัวตอนนี้ไม่ให้ขับมอเตอร์ไซค์แล้ว ผมว่าในยามวิกาล หรือยามจำเป็นผมอาจจะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ถ้าให้ขับเองผมคงไม่ขับแล้วแน่ๆ แต่ถ้านั่งวินมอเตอร์ไซค์บางทีรีบ บางครั้งอาจจะต้องมี แต่ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ขนาดผมใส่หมวกกันน็อคแล้วนะผมยังเป็นอย่างนี้เลย ดังนั้นลองดูนะว่าถ้าเรานั่งหมวกกันน็อกแบบไหนที่มันจะคุ้มหน้าเราหรือมันจะปลอดภัยสำหรับเราที่สุด แน่นอนว่าบางทีนั่งวินมอเตอร์ไซค์เค้าอาจจะไม่มีให้ ขอฝากพี่ๆ วินมอเตอร์ไซค์มีหมวกกันน็อกให้ลูกค้าเลย บางทีเค้าไม่ได้เตรียมหรือเราไม่มี แล้วอุบัติเหตุรางวัลที่หนึ่งมันจะออกที่เราหรือเปล่าก็ไม่รู้ บางทีเราประมาทเราขับของเราเขาอาจจะมาชนเราได้ แล้วถ้ามันเกิดสิ่งนั้นขึ้นมาจริงๆ ชั้นสองก็คือหมวกกันน็อก แต่จะให้ดีที่สุดคือเผื่อเวลาและไปรถยนต์อย่างน้อยเลท 1 นาที อันนี้เนื้อหุ้มเหล็กจริงๆ ถ้าจะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ขอให้มันเป็นเหล็กที่ดูแลเราดีกว่า เพราะฉะนั้นเป็นไปได้มอเตอร์ไซค์คือเคสสุดท้ายที่ขับขี่

หลังจากเกิดอุบัติเหตุเราก็ไม่ได้เกิดแพนิคผมสามารถนั่งมอไซค์และขี่มอเตอร์ไซค์ได้เหมือนเดิม แต่ล่าสุดผมขับรถยนต์ผมไม่รู้ว่าเรียกว่าแพนิคหรือว่ากลัวไปเอง ตอนออกจากแยกผมจะมองนานมากว่าช่วงไหนที่เขาสามารถจะโผล่ออกมาได้บ้าง เพราะการที่ผมขับไปวันนั้นผมก็งงเหมือนกันว่าออกมาได้ยังไง เราก็ก็เลยต้องระวังว่ามันมีมุมที่เราไม่คาดคิดอยู่ ก็คือจะช้ากว่าเดิมในการตัดสินใจเลี้ยวตรงทางแยก ตอนนี้ก็จะมีสิ่งดีๆเข้ามาผมก็สาธุครับ ก็หวังว่าแบบนั้น ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ“