สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่า นายโฮเวิร์ด ลุตนิก รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวถึงการเจรจาการค้ารอบใหม่กับจีน ที่กรุงลอนดอน ระหว่างวันจันทร์ถึงวันอังคาร ว่าทั้งสองประเทศเห็นพ้องเกี่ยวกับการจัดทำ “กรอบการทำงาน” แต่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้นำทั้งสองประเทศด้วย


ขณะที่นายหลี่ เฉิงกัง ผู้แทนการค้าระหว่างประเทศของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลปักกิ่ง กล่าวว่า การติดต่อสื่อสารระหว่างทั้งสองประเทศ “มีความเป็นมืออาชีพ มีเหตุผล และสร้างสรรค์” แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดของกรอบการทำงาน ซึ่งเห็นชอบร่วมกับสหรัฐ


ทั้งนี้ คณะผู้แทนเจรจาการค้าของสหรัฐ นำโดยนายสกอตต์ เบสเซนต์ รมว.การคลัง นายโฮเวิร์ด ลุตนิก รมว.พาณิชย์ และนายเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ พบหารือกับคณะตัวแทนของจีน นำโดยนายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการกิจการการเงินและเศรษฐกิจกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ และนายหวัง เหวินเทา รมว.พาณิชย์ ที่กรุงลอนดอน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา


การหารือเน้นไปที่ความคืบหน้านับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อง “สงบศึก” ทางการค้า ตามผลการเจรจาที่เมืองเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศลดอัตราภาษีต่างตอบแทนให้กันและกันเท่ากัน ที่อัตรา 115% โดยอัตราภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีน ลดลงจาก 145% เหลือ 30% ส่วนอัตราภาษีซึ่งจีนเรียกเก็บจากสหรัฐ ลดลงจาก 125% เหลือ 10% มีผลเป็นเวลา 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา


แม้ข้อตกลงดังกล่าวช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดให้กับบรรยากาศการค้าโลกได้พอสมควร แต่ดูเหมือนจะได้ผลเพียงชั่วระยะหนึ่ง เนื่องจากต่อมาไม่นาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า จีน “ละเมิดข้อตกลง” ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากรัฐบาลวอชิงตัน ว่ารัฐบาลปักกิ่ง “เจตนาถ่วงเวลา” การอนุมัติส่งออกแร่ธาตุหายาก และสหรัฐหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าจีนจะผ่อนปรนในเรื่องนี้มากขึ้น.

เครดิตภาพ : AFP