เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะ กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยทาง กมธ. มีการเชิญหลายภาคส่วนเข้าชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา อาทิ นายกฯ รมว.กลาโหม รมว.มหาดไทย รมว.การต่างประเทศ ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมเข้าชี้แจง เช่น พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย สมช. ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ส่งผู้แทนมาชี้แจง โดยให้เหตุผลว่าติดเตรียมข้อมูลเข้าร่วมประชุม JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.
นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า จะมีการประชุมลับ คุยกันตรงไปตรงมา ในวิกฤตินี้จำเป็นต้องรวมพลังแก้ปัญหา ประเด็นที่จะถามนั้น เป็นคำถามสำคัญ อย่างกัมพูชาต้องการอะไร แนวทางการเจรจา วันที่ 14 มิ.ย. นี้จะเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า เรื่องตัดไฟตัดก่อนประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย. หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าเราตัดไปก่อน ตนคิดว่า เป็นการเพิ่มแต้มต่อให้กับประเทศไทย นายกฯ ต้องใช้โอกาสนี้ประกาศให้ชัด ว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวจะไม่มีวันใหญ่กว่าความสำคัญของประเทศชาติ ถ้านายกฯ ทำเรื่องนี้ดี จะได้รับความนิยมที่ดี ถ้ากัมพูชายังยืนยันที่จะไปศาลโลก ตนคิดว่าคุยกันลำบาก การจัดลำดับของรัฐบาล มีความสำคัญมากต่อการไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน ถ้าวันนี้ไม่มียุทธศาสตร์ วันที่ 14 มิ.ย. น่าจะลำบาก
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ ว่าในกรณีกัมพูชาอาจเกี่ยวโยงกับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในวันที่ 13 มิ.ย. รวมถึงมติของแพทยสภา วันที่ 12 มิ.ย. นายรังสิมันต์ กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ของรัฐบาล รัฐบาลจะทำอย่างไรให้ประชาชนเชื่อว่าความสัมพันธ์ส่วนตัว เรื่องภายในครอบครัว ไม่ใหญ่กว่าเรื่องของผลประโยชน์ของชาติ เรื่องระบบกฎหมายกระบวนการยุติธรรม สำหรับตนมันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ดังนั้นรัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องนี้ให้ได้ อย่างในคดีเรื่องชั้น 14 ก็จะเป็นปมปัญหาต่อไปอย่างแน่นอน.