การเมืองเข้าสู่หมวดเดือดทันที เมื่อ “ผู้มีอำนาจ“ ตัวจริงในรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เร่งปิดจ๊อบการปรับ “ครม.อิ๊งค์ 2 ” ภายในสัปดาห์ที่ 3 เดือน มิ.ย.นี้ ส่ง ผลให้แต่ละพรรคการเมืองเร่ง “โชว์พลัง” ทันที

เริ่มจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคการเมืองสายเลือด ดีเอ็นเอ “ลุงตู่” ส่อสูญพันธุ์ หลังมีการซ่องสุมกองกำลังมาตั้งแต่การปลด “ออย“ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ ออกจาก ผอ.พรรค เมื่อต้นปี 2567 ทำให้ “นายทุนใหญ่” สั่งตัดท่อน้ำเลี้ยง
ในพรรคพร้อมปรากฎรอยร้าวเรื่อยๆ โดยมี “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เป็นหัวหน้าทีมรวมพล สส. รทสช. แสดงขุมกำลังทุกสิ้นเดือน โดยไม่แคร์สายตาฝั่งตรงกันข้าม
คู่ขนานกับการรวมตัวอดีตบิ๊กข้าราชการ ตั้งพรรค “โอกาสใหม่” ที่มีชื่อ ”ปลัดฉิ่ง“ ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดมหาดไทย อยู่เบื้องหลัง
จนสุดท้าย เมื่อคำสั่งปิดจ็อบปรับครม. มาถึง ทำให้ก่อ “กบฏ” ประกาศแตกหัก ในช่วงเย็นวันที่ 9 มิ.ย.2568 “เสี่ยเฮ้ง” ทำจดหมายเปิดผนึก 21 สส. ให้ ”นายกฯอิ๊งค์“ ปรับครม.
โละครม.โควตารทสช.ที่มีด้วยกัน 4 คน ประกาศแตกหักกับ ”กลุ่มพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค – เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค”
ตอนนึ้ ยังฟัดกันเละ เพราะทั้ง 2 กลุ่ม มั่นใจถึง
“ดีลลับพิเศษ” ว่าจะเคาะผลสรุปอย่างไร??
แต่ที่ “โชว์พลัง” แบบปิดดีลชัดเจนคือการ ดูด 6 สส.เมืองมะขามหวาน จากค่าย “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายใต้แกนนำอย่าง “สันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวจะกลับไป “พรรคเพื่อไทย”
“ปิดดีล“การเจรจา เมื่อปรากฎภาพ “ครูใหญ่เนวิน”ร่วมรับประทานอาหารกับนายสันติ และนายอัครเดช ทองใจสด หรือ ”นายกฯด๊อยซ์“ นายกอบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 มิ.ย.68
หลังจากการเปิดพื้นที่ทางการเมืองของ ”กลุ่มมะขามหวาน“ ในพรรคภูมิใจไทย เมื่อ “เสี่ยหนู” แต่งตั้งนางจิตรา หมีทอง เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ท่ามกลางการยึดเก้าอี้ “ มท.1” ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค
เท่ากับว่า ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทย มี สส.69 คน เพิ่ม สส.เพชรบูรณ์ 6 คน และยังมี สส.อีสาน อีก 2 คน จากพรรคไทยสร้างไทย ทำให้ ยอด สส. ตอนนี้ อยู่ที่ 77 คน
การปรับ ครม. เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายต้องดูว่า ใครจะมีอำนาจ “ต่อรอง” และ นาทีนี้ ใครจะอยู่ หรือใครจะไป.