น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้กำหนดแผนเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ในครึ่งปีหลัง เพื่อรับมือมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐ โดยมีการเปิดตลาดการค้าเสรีใหม่เพิ่ม รองรับความผันผวนจากตลาดอเมริกา ซึ่งขณะนี้กรมได้เร่งเจรจา 3 กรอบความตกลงให้ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ คือ เอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป (อียู) เอฟทีเอไทย-เกาหลีใต้ และอาเซียน-แคนาดา นอกจากนี้ กำลังเร่งรัดการบังคับใช้กรอบความตกลงการค้าเสรีที่มีการลงนามไปแล้ว 3 ฉบับ ได้แก่ เอฟทีเอไทย-ศรีลังกา ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป และ ไทย-ภูฏาน ให้สามารถบังคับใช้ได้ในต้นปีหน้า เพื่อสร้างแต้มต่อในการส่งออกให้กับสินค้าไทยเพิ่มเติม
“ที่ผ่านมา รัฐบาลได้สั่งการให้เร่งเจรจาเอฟทีเอกับคู่ค้าต่าง ๆ ให้สำเร็จโดยเร็ว ซึ่งกรมได้เดินหน้าอย่างเต็มที่ จะพยายามเร่งให้จบตามเป้าที่วางไว้ แต่พอมีเรื่องภาษีทรัมป์เข้ามา ทุกคนก็ยิ่งเร่ง ไม่ใช่แค่ไทย ที่มองว่าเอฟทีเอเป็นทางออกในการเปิดตลาดใหม่ ๆ แม้แต่คู่เจรจาเอง ก็มองเช่นเดียวกัน การเจรจาตอนนี้คงไม่ยากเหมือนเมื่อก่อน อะไรที่ยอมได้ ถอยได้ ก็คงต้องถอยคนละก้าว เพื่อให้การเจรจาสำเร็จ”
สำหรับความคืบหน้าเอฟทีเอไทย-อียู ขณะนี้มีการเจรจากันไปแล้ว 5 รอบ และรอบที่ 6 จะเจรจากันปลายเดือน มิ.ย. 68 มีกรอบเจรจาทั้งหมด 20 บท เจรจาสำเร็จแล้ว 4 บท และกำลังจะเริ่มเจรจาเรื่องเปิดตลาดสินค้า ตามด้วยบริการ ลงทุน และการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ส่วนเอฟทีเอไทย-เกาหลีใต้ จะช่วยขยายโอกาสทางการค้าเพิ่มเติมจากเอฟทีเออาเซียน-เกาหลี ที่มีอยู่แล้ว ขณะทีเอฟทีเออาเซียน-แคนาดา อาจจะไม่จบปีนี้ แต่น่าจะเป็นปี 69 หากทำสำเร็จ จะช่วยเปิดประตูสู่ตลาดอเมริกาเหนือได้ ส่วนไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สถานะยังอยู่จุดเดิมจะหาทางพูดคุย เพื่อหาข้อสรุปต่อไป
นอกจากนี้ กรมได้เดินหน้าเจรจาอัปเกรดเอฟทีเอ ให้มีความทันสมัยและได้ประโยชน์ต่อไทยเพิ่มเติม โดยขณะนี้เอฟทีเออาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ เจรจาสำเร็จแล้ว อยู่ระหว่างการให้สัตยาบัน คาดบังคับใช้ ต.ค. 68 อาเซียน-จีน อัปเกรดเสร็จแล้ว น่าจะลงนามได้ช่วงประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-จีน ก.ย. 68 ขณะที่ความตกลงการค้าเสรีอาเซียนเอง ได้อัปเกรดเรื่องการค้าสินค้า เจรจาเสร็จแล้ว ตั้งเป้าหมายลงนามในปีนี้ อาเซียน-อินเดีย กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา และเริ่มคุยยกระดับกรอบอาเซียน-เกาหลีใต้ ส่วนไทย-เปรู จะเจรจาการค้าสินค้าในส่วนที่เหลือ 30% และการเปิดเสรีภาคบริการ ตั้งเป้าสรุปผลภายใน ส.ค. 68 เช่นกัน รวมถึงการเจรจาความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ตั้งเป้าสรุปผลในปี 68 ซึ่งจะเป็นความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาคฉบับแรกของโลก