เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 15.45 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-กัมพูชา ว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ประธานคณะเจบีซีฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ได้หารือกลุ่มเล็กก่อนเริ่มการประชุมแบบเต็มคณะ โดยเป็นการหารือถึงประเด็นด้านเทคนิคที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของเจบีซี อาทิ การใช้เทคโนโลยีสำรวจภูมิประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การประชุมเจบีซีแบบเต็มคณะยังดำเนินอยู่ ซึ่งในช่วงบ่ายจะเป็นการประชุมตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่น การพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าการประชุมจะต่อเนื่องไปถึงวันที่ 15 มิ.ย. นี้ สำหรับบรรยากาศในการประชุมดังกล่าวเป็นไปด้วยดี และทั้ง 2 ฝ่าย กำลังเดินหน้าหารือร่วมกัน พร้อมกับปรับความคิดเข้าหากันด้วยดี ในส่วนของฝ่ายไทยหวังการคุยช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต

นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยืนยันว่าประเทศไทยไม่รับเขตอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก (ไอซีเจ) โดยไทยต้องการแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่และการหารือทางการทูต เนื่องจากเรามั่นใจว่าเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุด รวมถึงการหารือทางการทูตยังเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และธรรมเนียมปฏิบัติสากลในการแก้ปัญหาตามที่สหประชาชาติกำหนด เช่นเดียวกับกลไกเจบีซีและกลไกอื่นๆ ที่ได้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม อาทิ การสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมเจบีซีเสร็จสิ้นแล้ว จะแจ้งสรุปผลการประชุมให้ทราบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมได้หยิบยกข้อพิพาทเรื่องกลุ่มปราสาท 3 แห่ง และพื้นที่ช่องบกหรือสามเหลี่ยมมรกตมาหารือด้วยหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า ตนยังไม่มีรายละเอียด เพราะการประชุมยังไม่เสร็จสิ้น
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่ามีภาพการสนทนาในแอปพลิเคชันไลน์หลุด โดยอ้างว่าเป็นข้อความของประธานเจบีซีฝ่ายไทยยอมรับแผนที่ของฝ่ายกัมพูชา นายนิกรเดช กล่าวว่า ตนเห็นเพียงกระแสข่าว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องนี้ เพราะตนอยู่ระหว่างการติดตามการประชุมเจบีซี
ทั้งนี้มีรายงานว่า การประชุมเจบีซี ไทย-กัมพูชาได้พักการประชุมแล้วเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. และจะกลับมาประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.