สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ว่ารัฐบาลวอชิงตัน “ไม่มีความเกี่ยวข้องในทางใดทั้งสิ้น” กับการสู้รบระหว่างทั้งสองประเทศ


อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐตกเป็นฝ่ายถูกโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าด้วยวิธีการและรูปแบบใดก็ตาม กองทัพสหรัฐจะตอบโต้ “อย่างทรงพลังและทรงอานุภาพ ในระดับที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน” ทั้งนี้ทั้งนั้น ทรัมป์ทิ้งท้ายว่า ความขัดแย้งอันนองเลือดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านสามารถยุติได้ด้วยการเจรจา


ทั้งนี้ สำนักข่าวฟาร์ส ซึ่งมีความใกล้ชิดกับกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) รายงานโดยอ้างเป็นคำกล่าวของหนึ่งในทหารระดับสูงในไออาร์จีซี ว่าการเผชิญหน้ากับอิสราเอลจะดำเนินต่อไป และ “ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” อาจมีการขยายขอบเขต ออกจากดินแดนของอิสราเอล ไปยังฐานทัพสหรัฐหลายแห่งที่อยู่ในตะวันออกกลาง


ด้านนายอิสราเอล คัตซ์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า หากอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ยังคงไม่หยุดสั่งให้มีการยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล “กรุงเตหะรานจะลุกเป็นไฟ”.

เครดิตภาพ : AFP