สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ว่ารัฐบาลวอชิงตัน “ไม่มีความเกี่ยวข้องในทางใดทั้งสิ้น” กับการสู้รบระหว่างทั้งสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐตกเป็นฝ่ายถูกโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าด้วยวิธีการและรูปแบบใดก็ตาม กองทัพสหรัฐจะตอบโต้ “อย่างทรงพลังและทรงอานุภาพ ในระดับที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน” ทั้งนี้ทั้งนั้น ทรัมป์ทิ้งท้ายว่า ความขัดแย้งอันนองเลือดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านสามารถยุติได้ด้วยการเจรจา
????President Trump says the United States had nothing to do with the attack on Iran and sends out a strong warning:
— Benny Johnson (@bennyjohnson) June 15, 2025
“If we are attacked in any way, shape or form by Iran, the full strength and might of the US Armed Forces will come down at levels never seen before.” pic.twitter.com/ssm4szcQNb
ทั้งนี้ สำนักข่าวฟาร์ส ซึ่งมีความใกล้ชิดกับกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) รายงานโดยอ้างเป็นคำกล่าวของหนึ่งในทหารระดับสูงในไออาร์จีซี ว่าการเผชิญหน้ากับอิสราเอลจะดำเนินต่อไป และ “ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” อาจมีการขยายขอบเขต ออกจากดินแดนของอิสราเอล ไปยังฐานทัพสหรัฐหลายแห่งที่อยู่ในตะวันออกกลาง
ด้านนายอิสราเอล คัตซ์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า หากอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ยังคงไม่หยุดสั่งให้มีการยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล “กรุงเตหะรานจะลุกเป็นไฟ”.
เครดิตภาพ : AFP