โดยเป็นการถือฤกษ์ วันครบรอบ 63 ปี ของคำตัดสินประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2505 ซึ่งศาลโลกพิพากษาให้กัมพูชาได้รับชัยชนะ เกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องปราสาทพระวิหารกับไทย และกัมพูชาหวังว่าเรื่องนี้จะสามารถใช้เป็นต้นแบบ ของการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนผ่านกลไกกฎหมายระหว่างประเทศ
ขณะที่วงถกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่ฝ่ายไทยเดินทางไปร่วมประชุมที่กรุงพนมเปญตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เรายังคงงกๆ เงิ่นๆ กอดเอ็มโอยู 43 ยืนยัน ไทยรักสงบ ท่ามกลางกระแสคนไทยรุมถล่มรัฐบาล ว่าเล่นการเมืองระหว่างประเทศอ่อนด้อย หวั่นเสียดินแดนไปอีกครา
ประเด็นนี้ “คำนูณ สิทธิสมาน”อดีต สว. ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามใจความสรุปว่า กัมพูชาส่งหนังสือไปยังศาลโลกเรียบร้อยตามฤกษ์ครบรอบ 63 ปีคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร 15 มิ.ย. ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ที่ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของชาติ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการจงใจเลือกวันนี้ ทั้งนี้จากการบอกเล่าของสมเด็จฮุนมาเนต ใน fb ส่วนตัว เป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนออกศึกอีกครั้งในสมรภูมิที่เคยได้ชัยมาแล้ว แล้วผู้แทนไทยจะคุยอะไรกันใน JBC และผู้แทนไทยใน JBC จะทำหน้าอย่างไรในบรรยากาศเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือเราของประเทศเขา ไม่อยากจะคิดว่าเป็นการจงใจหยามกันชัดๆ ทั่น “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” คิดอย่างไรช่วยบอกคนไทยทั้งประเทศหน่อย
ขณะที่โพลหลายสำนักไม่ว่าจะเป็น “สวนดุสิตโพล” ออกมาสะท้อนความเห็นของประชาชนคนไทยว่าวันนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลมากที่สุด ส่วน “นิด้าโพล”ระบุว่าประชาชนไว้ใจกองทัพปกป้องผลประโยชน์ของชาติได้ แต่ไม่ไว้ใจรัฐบาล
อย่างไรก็ตามคดีข้อพิพาทนี้ถ้าต้องไปศาลโลกคงอีกยาว เพราะว่าต้องผ่านวงเจรจาอีกหลายยก แต่รัฐบาลต้องออกมาพูดให้ชัดว่าจะเอาอย่างไร เพราะคนที่ได้ซีนบู๊ไปก่อนคือ “พล.ท.บุญสิน พาดกลาง” แม่ทัพภาค 2 ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “ไทยจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่นิดเดียว ไม่ขึ้นศาลโลก แผ่นดินกู อยู่ตรงนี้มานานแล้ว ถ้าจะเอา ก็ดวลกัน”
วันนี้รัฐบาลภายใต้การนำของ“นายกฯ อิ๊งค์”และพรรคเพื่อไทย จึงต้องปรับบทบาทท่าทีให้เข้มแข็งในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศถึงขั้นสุด ที่สำคัญต้องแสดงบทบาทนำกองทัพให้ได้ ไม่เช่นนั้นจุดนี้จะเด็ดชีพรัฐบาลอย่างฉับพลันจนอยู่ถึงไม่ถึงการเลือกตั้งปี 2570 ถ้ายังเดินไม่ทันเกมผู้นำกัมพูชาเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของตระกูลชินวัตร.