“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค ชลบุรี เอฟซี เรียกร้องให้สโมสรในไทย เห็นความสำคัญของอคาเดมี หวั่นว่าระบบโควตาไทยลีกแบบใหม่ จะทำให้ละเลย ส่งผลถึงการพัฒนาโดยรวม

ชลบุรี เอฟซี รุ่นเด็ก ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์ฟุตบอลรุ่น 13 ปี “ช้าง จูเนียร์ คัพ 2025” หลังจากรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่สนามอินทรีจันทรสถิตย์ ม.เกษตรศาสตร์ ชนะ อัสสัมชัญธนบุรี ในช่วงต่อเวลา 1-0 จากประตูชัยของ ปัญญาวชิทธิ์ เกตุประสิทธิ์ นับเป็นแชมป์สมัยที่ 3 คว้าสิทธิเดินทางไปประเทศอังกฤษ โดย ปัญญาวชิทธิ์ คว้ารางวัล ผู้เล่นทรงคุณค่า

วิทยา เลาหกุล ให้สัมภาษณ์กับ เพจคิดไซด์โค้ง ว่า ความสำเร็จครั้งนี้ เป็นไปตามคาด เพราะทำทีมชุดนี้มาต่อเนื่อง ตั้งแต่ 7 ปี ขณะเดียวกัน ตนอยากเห็นทุกสโมสร ให้ความสนใจอคาเดมี เกรงว่าด้วยกฎไทยลีก ทำให้ไม่มีสโมสรไหนผลิตอคาเดมี ทั้งที่ต้องให้ความสำคัญ การฝึกที่มีระบบแบบแผนจะทำให้นักเตะจะสมบูรณ์แบบเมื่ออายุ 16 ปี แต่ถ้าฝึกไม่มีระบบ ฝึกไปวันๆ จะไม่มีนักเตะรุ่นเยาวชนที่มีคุณภาพ

“อยากให้สโมสรอื่น ลงทุนตรงนี้ด้วย ไม่ใช่พอไทยลีกต้องใช้ผู้เล่นต่างชาติ 10-11 คน ก็เลิกสนใจอคาเดมี มันใช้เวลา ต้องใช้ความอดทน และแน่นอนใช้เงินสูงมาก อยากให้สโมสรร่ำรวย ใส่ใจตรงนี้ด้วย เชื่อว่าถ้าพัฒนาพื้นฐานถูกต้อง จะเป็นผลดีกับอคาเดมีนั้นๆ ส่งผลถึงทีมชาติไทยด้วย”

ทั้งนี้ฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2025-26 จะใช้โควตานักเตะต่างชาติลงทะเบียน 7 คน ส่งลงสนาม 5 คน + โควตาอาเซียนลงทะเบียนไม่จำกัด ลงสนามได้ 2 คน (จากเดิมลงทะเบียน 5 ต่างชาติ+1 เอเอฟซี+3 อาเซียน, ส่งลงสนาม 3+1+3)

โค้ชเฮง กล่าวถึงการพัฒนาทีมชาติไทยด้วยว่า “เราต้องรู้นโยบายทีมชาติ มันมีคอนเซปต์ทีมชาติ ที่ทุกประเทศต้องรู้ แต่ว่าทำไมประเทศไทยมองข้ามเรื่องนี้ ไม่ว่าจะไทยแลนด์เวย์ เนชั่นนัลคอนเซปต์ ที่เป็นการเล่นของทีมชาติ ทุกประเทศรู้กันหมด แต่ทำไมประเทศไทยไม่มีใครรู้ ถ้าเรารู้ ฟุตบอลไทยจะพัฒนามากกว่านี้”