เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 24 หัวข้อ “The Power of Inspiration and Skills: The Key to Health Professionals’ Success” พลังแห่งแรงบันดาลใจและทักษะการบริหารจัดการตนเอง : กุญแจสู่ความสำเร็จของบุคลากรสาธารณสุข พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทักษะการจัดการเวลา อาวุธที่ทุกคนต้องมี: Time Mastery: The Key to Productivity” ณ ห้องประชุมอุดมสังวรญาณ ชั้น 23 อาคาร 72 พรรษา มหาราชินี โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ เขตบางคอแหลม

รองผู้ว่ากทม. กล่าวในการปาฐกถาว่า วันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองร่วมกัน ปัญหาการบริหารเวลาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการจัดการของแต่ละบุคคล แต่มาจากการออกแบบงานที่ไม่ดีหรือการไม่ปรับปรุงวิธีการทำงาน โดยเฉพาะในระดับผู้บริหารที่มักมอบหมายงานโดยไม่คำนึงถึงภาระที่แท้จริงของผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้น “การจัดการพลังงาน” (Energy Management) ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ

รองผู้ว่ากทม. เสนอว่า ให้ทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูงสุดในช่วงที่มีพลังงานมากที่สุด และการพักผ่อนไม่ใช่เรื่องเสียเวลา แต่คือการชาร์จพลังงาน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย
รองผู้ว่ากทม. กล่าวอีกว่า ชีวิตนั้นไม่เป็นไปตามแผนเสมอไป แนะนำให้มองปัญหาให้เป็นเหมือนปริศนาที่น่าสนใจ จะช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดลำดับความสำคัญของงาน รวมถึงการให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนบ้าง
” การบริหารจัดการเวลาในบริบทของการทำงาน องค์กรควรออกแบบระบบที่ส่งเสริมสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่ดีขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติงาน”

สำหรับการประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 24 โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “The Power of Inspiration and Skills: The Key to Health Professionals’ Success” หัวข้อ พลังแห่งแรงบันดาลใจและทักษะการบริหารจัดการตนเอง: กุญแจสู่ความสำเร็จของบุคลากรสาธารณสุข เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการทำงาน และพัฒนาคุณภาพการบริการและการรักษาพยาบาลให้เป็นไปตามหลักวิชาชีพ

กระต้นให้บุคลากรทางการแพทย์ ตระหนักถึงความสำคัญของทักษะด้านวิชาการ (Hard Skills) และทักษะด้านอารมณ์และสังคม (Soft Skills) เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของอารมณ์รุนแรงของผู้รับบริการ โดยสามารถนำทักษะและเทคนิคในการจัดการกับสถานการณ์รุนแรงไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้สามารถดูแลตนเองและจัดการกับความเครียดที่เกิดจากการทำงานได้อย่างเหมาะสม.