เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ตนได้มอบหมายศูนย์ความปลอดภัยของ สพฐ. ให้จัดส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางลงพื้นที่โรงเรียนที่ตั้งอยู่ติดตามชายแดน ประสานกับหน่วยงานทหารในพื้นที่ สำรวจหลุมหลบภัย หรือ บังเกอร์ ที่ถูกต้องสำหรับโรงเรียนในการหนีภัยจะต้องมีรูปแบบที่เหมาะสมอย่างไร เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านภูมิซรอล และโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา จ.ศรีสะเกษ พบว่า ยังมีปัญหาเรื่องการเคลื่อนย้ายอพยพนักเรียนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสภาวะสงครามว่าใครจะเป็นผู้นำในการบริหารจัดการควบคุมการอพยพนักเรียน หรือ การจัดระบบรุ่นพี่ดูแลรุ่นน้อง ไม่ใช่ปล่อยให้ครูมาเรียกเด็กไปรวมตัวกันเอง
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จะมีการจัดทำคู่มือแนวปฏิบัติที่ปลอดภัยในภาวะสงคราม โดยจะออกแบบคู่มือร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ สำหรับการจัดทำหลุมหลบภัยนั้น จะมีการออกแบบบังเกอร์หลบภัยร่วมกับหน่วยทหารว่า รูปแบบหลุมหลบภัยที่เหมาะสมควรจะเป็นอย่างไร และความมั่นคงแข็งแรงในการป้องกันวัตถุระเบิดและอาวุธสงคราม ซึ่งแนวทางเบื้องต้นจำเป็นจะต้องมีหลุมหลบภัยรอบอาคารเรียน เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยบริเวณชายแดนจนส่งผลกระทบถึงโรงเรียนจะต้องอพยพเด็กให้เข้าสู่หลุมหลบภัยได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์สู้รบหรือไม่ เราจะต้องเตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อให้เด็กมีความปลอดภัยอย่างสูงสุด