เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 68 พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี, พ.ต.ท.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ต.วรายุทธ เสียงดี, พ.ต.ต.อานุภาพ ตู้จินดา สว.กก.สส.บก.ตม.3, ร.ต.อ.ภูมเบศ โล่กันภัย, ร.ต.อ.ฐิติยพงศ์ ธาตุศาสตร์, ร.ต.อ.เมธาวัจน์ ธีระรัตน์สิริ, ร.ต.อ.มาตรา จิตรธนภัทร์, ร.ต.อ.กิตติ์ธนทัต อิทธิพัฒน์ปัญญา, ร.ต.อ.ธนวิชญ์ เหลืองอ่อน รอง สว.กก.สส.บก.ตม.3 สนธิกำลัง สภ.พัทยา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เข้าตรวจค้นจับกุม ต่างชาติลักลอบเล่นการพนันโรงแรมอันไถ ฮอลิเดย์ (พัทยากลาง) ซอยเพนียดช้าง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากกรณีได้รับการประสานจาก สภ.เมืองพัทยา ว่ามีการลักลอบเล่นการพนันของคนต่างด้าวที่โรงแรมอันไถ ฮอลิเดย์ (พัทยากลาง) ซอยเพนียดช้าง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และได้ประสานให้ กก.สส.บก.ตม.3 พร้อมด้วย ตม.จว.พัทยา ร่วมกันวางแผนตรวจสอบ จึงได้ทดลองสายลับเข้าสังเกตการณ์ จนพบว่าที่สถานที่ดังกล่าวมีบุคคลต่างด้าวเคลื่อนไหวในเวลากลางคืนพลุกพล่าน เชื่อว่ามีการลักลอบเล่นการพนันจริง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และวางแผนเข้าจับกุม
ต่อมาวันที่ 16 มิ.ย. 68 เวลา 23.30 น. เข้าตรวจค้นจับกุม จากผลการตรวจสอบปรากฏว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 8 ชั้น พบคนต่างด้าวในส่วนต่างๆ แยกส่วนพิจารณาดำเนินการเบื้องต้น ชั้น 1 เป็นส่วนห้องรับรองและแผนกต้อนรับ มีพนักงานเป็นคนไทยรับจองที่พัก ชั้น 2 เป็นส่วนที่มีการจัดให้มีการพนัน พบนักพนันเป็นคนต่างด้าว จำนวน 20 คน ได้แก่ คนจีน 16 คน, คนเวียดนาม 3 คน, สิงคโปร์ 1 คน รวมประมาณ 20 คน พบอุปกรณ์โต๊ะเล่นไพ่โป๊กเกอร์ และชิปแทนเงินสดจำนวนมาก

โดยชั้น 3-7 เป็นส่วนที่มีห้องพัก ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 จำนวน 24 คน ได้แก่ คนจีน 16 คน (ม.37), สิงคโปร์ 2 คน (ม.37), กัมพูชา 1 คน (ทำงาน) และเมียนมา 5 คน (แบ่งเป็น ม.37 จำนวน 2 ราย และหลบหนีเข้าเมือง 3 ราย) ชั้น 8 เป็นส่วนที่มีคนจีนจำนวน 6 คน นั่งทำงานออนไลน์ ตรวจพบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ว่าทำงานเป็นพนักงานลอกส่งลิงก์ให้บริษัทเอกชนในจีนกดเพื่อปล่อย ransomware จึงได้จับกุมในความผิดฐาน “เป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย (เป็นอั้งยี่) และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 9 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 15 เครื่อง ในชั้นนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และจัดทำบันทึกจับกุม หากมีรายละเอียดเป็นประการใดจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป.