เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จัดประชุมหัวหน้าอุทยานทางทะเล เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการจัดการระบบบริหารจัดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ หรือ E-National Park โดยนำร่องใน 6 พื้นที่ทะเลฝั่งอันดามัน เริ่มใช้งานวันที่ 15 ต.ค. 2568 นี้
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เปิดให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ E-bidding จะนำร่องใน 6 พื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล รวม 11 จุด ประกอบด้วย 1.อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา บริเวณเขาพิงกัน 2.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริเวณเกาะไม้ไผ่ อ่าวมาหยา และเกาะปอดะ 3.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน บริเวณเกาเมียง (เกาะสี่) และเกาะสิมิลัน (เกาะแปด) 4.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา บริเวณเกาะรอก 5.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ บริเวณอ่าวช่องขาด และอ่าวไม้งาม 6.อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี บริเวณเกาะห้อง และเกาะเหลาลาดิง

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า โดยจะใช้ระบบสแกนและจดจำใบหน้า ขณะนี้ระบบมีความพร้อมจะให้บริการนักท่องเที่ยว หลังได้รับอนุมัติงบประมาณติดตั้งเครื่องสแกน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการทันช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือช่วงไฮซีซั่น ในวันที่ 15 ต.ค. 2568 เบื้องต้นตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้เข้าอุทยานแห่งชาติประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทในอนาคต เพื่อนำเงินรายได้มาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติไม่ให้เสื่อมโทรมและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะเดียวกันจะนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งมาเป็นสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่และลูกจ้างของกรมอุทยานแห่งชาติ ซึ่งการใช้ระบบ E-ticket จะช่วยคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้ชัดเจนป้องกันการสวมสิทธิ
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในส่วนของแผนระบบ E-ticket ปีหน้าจะเพิ่มจุดให้บริการอีกประมาณ 70-80 แห่ง และภายในปี 2570-2572 จะดำเนินการให้ครบ 150 กว่าแห่งทั่วประเทศ ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้เริ่มประชาสัมพันธ์การใช้ระบบ E-ticket ไปยังบริษัทนำเที่ยวและอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง รวมทั้ง ช่องทางเว็บไซต์ของอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ผ่านการฝึกอบรบใช้ระบบนี้แล้ว

ด้านนางวนบุษป์ อรรถวิทย์ ผอ.ส่วนจัดการท่องเที่ยวและนันทนาการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเดิมระบบ E-Ticket เป็นการจองและจ่ายเงิน แต่พบว่าอุทยานฯ บางแห่งไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ จึงไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ ดังนั้นระบบใหม่ที่กำลังพัฒนา คือ จองล่วงหน้าและชำระเงิน แต่จะเพิ่มการแสกนใบหน้า (Face Scan) เหมือนการสแกนใบหน้าที่สนามบิน โดยคนไทยจะเชื่อมข้อมูลกับแอปพลิเคชัน Thai ID ทำให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น แม้ไม่ได้พกบัตรประชาชนก็ยังคงสแกนหน้าได้ ส่วนท่องเที่ยวต่างชาติต้องใช้พาสปอร์ตเวลาท่องเที่ยวอยู่แล้ว

นางวนบุษป์ กล่าวว่า โดยกรมอุทยานฯ จะนำร่อง 6 อุทยานทางทะเล รวม 11 จุด ซึ่งใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท โดยได้ข้อสรุปว่าจะเสนอขอจัดสรรงบประมาณในส่วนของงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทจากรัฐบาล สำหรับขั้นตอนการซื้อบัตร E-Ticket สามารถจองอุทยานได้ผ่านทางเว็บไซต์หรือผ่านทางแอปพลิเคชัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำระบบ จากนั้นกรอกข้อมูลนักท่องเที่ยว หรือสแกนบัตรประชาชน และถ่ายรูปใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน จากนั้นจะมีการเลือกวิธีการชำระเงิน เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถสแกนใบหน้าเพื่อเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติได้เลย อย่างไรก็ตาม ืขอย้ำว่าเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ ต้องโปร่งใส ถูกกฎหมาย ไร้ทุจริต ซึ่งกรมอุทยานฯ มีความมุ่งมั่นทำด้วยใจ เพื่อให้การบริหารจัดการอุทยานฯ เป็นไปอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้.


