เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เวลา 12.05 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ไทยและกัมพูชา ว่า ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทย กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา ต่อสาธารณชนเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยฝ่ายไทยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณและมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน จึงส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศและต่อความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ฝ่ายตามแนวรับปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศที่ควรได้รับการเคารพและให้เกียรติตามหลักปฏิบัติสากลของการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ

นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ดังนั้น ในวันนี้ (19 มิ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศจึงได้มีหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญนายฮุน ซาเรือน (H.E. Mr. Hun Saroeun) เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของฝ่ายกัมพูชาไม่ใช่เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ และผิดมารยาทพื้นฐานของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐ อีกทั้งถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ การดำเนินการของฝ่ายไทยและการตอบโต้ดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติทางการทูต กระทำโดยใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินงานอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลคนไทยในกัมพูชาไว้เรียบร้อยแล้ว

“กระทรวงการต่างประเทศขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นการดำเนินการทางการทูตที่เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ปัญหาระหว่างประชาชนของ 2 ประเทศ ซึ่งแตกต่างจากฝ่ายกัมพูชาที่ใช้การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียเพื่อมุ่งหวังปลุกระดมเรียกความนิยม และสร้างความแตกแยกให้กับสังคมของทั้ง 2 ประเทศ หรือของประเทศอื่น ซึ่งแสดงถึงการไม่เคารพหลักการของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และการกระทำเช่นนี้ไม่ควรได้รับการเคารพและการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว

นายนิกรเดช กล่าวว่า การกระทำของกัมพูชาเป็นการไม่ให้เกียรติประเทศไทย และเป็นสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศรับไม่ได้ ขอย้ำว่าการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เป็นการทำตามคำสั่งจากใคร เป็นการดำเนินการทางการทูต และดำเนินการอย่างมีวิจารณญาณ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบกับคนไทยในกัมพูชา แต่เราได้มีการเตรียมมาตรการในการดูแลไว้แล้ว โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้ติดต่อประสานงานกับคนไทยในกัมพูชาอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้ยื่นหนังสือประท้วงรัฐบาลกัมพูชาผ่านทางนายฮุน ซาเรือน (H.E. Mr. Hun Saroeun) เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ที่กระทรวงการต่างประเทศ