มาแล้วค่าทุกคน “นูน่าเมี้ยน” ผู้น่ารักของแฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” มาแล้วค่า นูน่ามาประจำการที่เดิม พร้อมขนเอาข่าวสารของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีในรอบสัปดาห์มาอัปเดตแบบเอ็กซ์คลูซีฟกันอย่างจัดเต็มผ่านคอลัมน์บันเทิงสุดฮอตอย่าง “SeoulStation” โดยสัปดาห์นี้นูน่ายังคงเอาใจแฟนๆ สายซีรีส์กันอย่างต่อเนื่อง กับซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติก-แฟนตาซีเรื่องใหม่ที่มีชื่อว่า “Head Over Heels” หรือมีชื่อภาษาไทยว่า “หนุ่มดวงจู๋กับหมอดูคนจ๋วย” ทางPrime Video ซึ่งนำแสดงโดยนักแสดงดาวรุ่ง “โจอีฮยอน” และ “ชูยองอู” สำหรับซีรีส์ Head Over Heels จะบอกเล่าเรื่องราวสุดแปลกใหม่ของนักเรียนมัธยมปลายที่มีความมุ่งมั่นในการช่วยชีวิตรักแรกของเธออย่าง “ซองอา” (รับบทโดย โจอีฮยอน) ผู้ใช้ชีวิต 2 รูปแบบ เธอเป็นนักเรียนในเวลากลางวันและเป็นร่างทรงในเวลากลางคืน เมื่อวันหนึ่งเธอได้พบกับ “กยอนอู” (รับบทโดย ซูยองอู) ผู้มีโชคชะตาอันแสนโชคร้าย และด้วยความสามารถพิเศษของร่างทรงทำให้ซองอามองเห็นว่ากยอนอูกำลังเดินกลับหัว ซึ่งหมายความว่าเวลาชีวิตของเขากำลังนับถอยหลัง แต่เมื่อเธอตกหลุมรักเขาอย่างหมดหัวใจ ซองอาจึงปฏิญาณตนว่าจะต้องช่วยชีวิตกยอนอูให้ได้

ซีรีส์เรื่องนี้กำกับโดย “คิมยองวาน” (The Whirlwind, If You Wish Upon Me) และเขียนบทซีรีส์โดย “ยังจีฮุน” ซึ่งนักแสดงนำอย่าง “โจอีฮยอน” เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งหญิงที่น่าจับตามองของเกาหลี เคยฝากผลงานการแสดงอันโดดเด่นไว้ในซีรีส์ยอดฮิตอย่าง The Matchmakers, All of Us Are Dead และ Hospital Playlist ส่วนด้าน “ชูยองอู” ก็ได้รับความสนใจจากบทบาทในซีรีส์ The Trauma Code: Heroes on Call เป็นอย่างมาก แถมล่าสุดสามารถคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากเวทีประกาศรางวัล Baeksang Arts Awards จากบทอันน่าประทับใจใน The Tale of Lady Ok มาได้ด้วย นอกจากนี้ซีรีส์เรื่องนี้ยังเป็นการโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในรอบ 3 ปีของพวกเขาทั้งคู่ บอกเลยว่าจะทำให้หัวใจของทุกคนพองโตได้อีกครั้งอย่างแน่นอน แถมงานนี้ “นูน่าเมี้ยน” ได้มีโอกาสใกล้ชิด “โจอีฮยอน” และ “ชูยองอู”  ก็เลยไม่พลาดที่จะเก็บบทสัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้มาฝากกันด้วย เอาเป็นว่าจะเอ็กซ์คลูซีฟขนาดไหน ทุกคนตามมาอ่านกันได้เลย!

ผลงานนี้เป็นการกลับมาร่วมงานกันของคุณทั้งสองคน ในรอบ 3 ปี ครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง และคุณรู้สึกถึงการเติบโตของกันและกันอย่างไรบ้าง?

ชูยองอู : “ผมรู้สึกถึงการเติบโตในหลาย ๆ ด้านเลยครับ แล้วมันก็ทำให้ได้ย้อนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา เลยคิดว่าถ้าได้ร่วมงานกันอีกก็น่าจะสนุกดีครับ”

โจอีฮยอน : “จริง ๆ แล้วเราอายุเท่ากันด้วย แล้วพอได้มาเจอกันอีกครั้ง มันก็มีเคมีที่แตกต่างจากในผลงานก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ และฉันจำได้ว่าตอนถ่ายทำสนุกมาก ๆ รู้สึกดีมากเลยค่ะ”

ถ้าหากพล็อตของเรื่องนี้บอกว่า “ความรักคือการพยายามช่วยใครสักคนให้รอดพ้นจากชะตากรรม” ในชีวิตจริง

คุณเคยมีใครสักคนที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิต หรือทำให้คุณมีกำลังใจขึ้นในช่วงเวลายากๆ ไหม?

โจอีฮยอน : “ด้วยอาชีพนักแสดงฉันคิดว่าพวกเรามีชีวิตและทำงานอยู่ได้ด้วยความรักที่ได้รับจากผู้ชมและแฟนๆ มันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของฉันเลยค่ะ และคนที่ทำให้ฉันมีชีวิตที่ดีในตอนนี้ได้ ก็คือทุกคนที่อยู่เคียงข้างและคอยสนับสนุนฉันเสมอมาค่ะ”

ชูยองอู : “ใช่เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน รุ่นพี่ในวงการ หรือเพื่อนนอกวงการ ทุกคนล้วนมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผมทีละนิดครับ”

ชื่อภาษาอังกฤษของเรื่องนี้คือ ‘Head Over Heels’ ซึ่งหมายถึง การตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปำ อยากให้บอกใบ้ถึงความสัมพันธ์ของตัวละครว่าจะเป็นรักหัวปักหัวปำแบบนั้นเลยใช่มั้ย?

ชูยองอู : “คิดว่ายังไงกันบ้างครับ? พวกเรา2คน ดูเข้ากันดีไหมครับ ?”

โจอีฮยอน : “ถ้าอย่างนั้นเราก็หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ดีเหมือนกับที่เราดูเข้ากันค่ะ”

ชูยองอู : “แบบนั้นเลยครับ”

คุณต้องรับบทนักเรียนมัธมปลายตอนเช้า และตอนกลางคืนเป็นร่างทรง คุณต้องฝึกฝนด้านใดเป็นพิเศษเพื่อถ่ายทอดตัวละครใน 2 คาแรกเตอร์?

โจอีฮยอน : “ก่อนอื่นเลย ตอนที่เล่นบทเป็นนักเรียนฉันก็อิงจากความทรงจำมัธยมปลายของฉันค่ะ ส่วนตอนที่ต้องแสดงเป็นร่างทรงฉันพยายามเลียนแบบน้ำเสียงของอาจารย์ร่างทรงจริง ๆ ค่ะ มีการพูดคุยกับอาจารย์ว่าต้องพูดแบบไหนถึงจะฟังดูเหมือนร่างทรงมากขึ้น? แบบนี้ดูเข้มขึ้นไหม? จำได้ว่ามีการพูดคุยแบบนี้บ่อย ๆ เพื่อปรับโทนเสียงค่ะ”

คยอนอู” เป็นคนที่ดูเหมือนโดนโชคร้ายตามหลอกหลอนตลอดเวลา คุณตีความความโชคร้ายของตัวละครนี้ยังไง?

ชูยองอู : “มันคือโชคชะตาครับ เป็นชะตากรรมที่คยอนอูต้องพบเจอ แต่คยอนอูสามารถรับมือกับโชคชะตานี้ได้ดีเลยทีเดียว และนี่ก็เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของคยอนอูครับ”

คุณคิดว่าคุณมีความคล้ายหรือแตกต่างจากตัวละครของคุณอย่างไร?

โจอีฮยอน : “สิ่งที่เหมือนกันคือ ฉันและซองอายิ้มเก่ง ส่วนที่ต่างกันคือ สำหรับฉันแล้ว ซองอาค่อนข้างพูดเก่งมากๆ พูดเยอะจนบางทีก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันค่ะ”

ชูยองอู : “ที่เหมือนกันคือ คยอนอูกับผม เราทั้งคู่ชอบออกกำลังกายครับ ส่วนความแตกต่างมีเยอะเลยครับ เช่น คยอนอูมักจะผลักคนที่เข้ามาหาเขา และเขาจะไม่ค่อยเข้าหาคนอื่นก่อน เพราะกลัวว่าจะส่งต่อความโชคร้ายของตัวเองให้คนอื่น แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่เป็นแบบนั้น ผมไม่ค่อยเคอะเขินการเจอคนใหม่ ๆ ครับ นั่นน่าจะเป็นความแตกต่างของเราครับ”

คุณคิดว่าการที่อายุเท่ากันในชีวิตจริง ช่วยในการถ่ายทอดเคมีของพวกคุณมากน้อยแค่ไหน?

โจอีฮยอน : “ก่อนอื่นเลย เราเคยร่วมงานกันในผลงานก่อนหน้านี้ และด้วยความที่อายุเท่ากัน ทำให้การสื่อสารระหว่างการแสดงนั้นค่อนข้างง่ายและเป็นกันเอง สำหรับครั้งนี้ก็เช่นกันค่ะ เราทั้งคู่มีเคมีที่ดีกว่าเดิม และสามารถให้คำแนะนำกันได้อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ ซึ่งทำให้บรรยากาศในการแสดงสบายและดีมาก ๆ ค่ะ”

ชูยองอู : “ในเรื่องพวกเราก็รับบทเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันจริง ๆ ครับ ผมเลยรู้สึกว่าฉากเวลาทะเลาะกัน ตอนเริ่มชอบกัน หรือแม้แต่ตอนสารภาพรักมันเลยดูสมจริงมากขึ้น และช่วยให้การแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นคครับ”

เบื้องหลังการถ่ายทำสนุกสนานมากขนาดไหน ช่วยเล่าให้ฟังสักหน่อย?

ชูยองอู : “ก่อนอื่นเลย บรรยากาศโดยรวมอบอุ่นมาก ๆ มันดีจริง ๆครับ ทุกคนใจดีและน่ารักมากๆ เรื่องราวสนุก ๆ มีเยอะมากเลยครับ แต่เดี๋ยวให้ซองอาเป็นคนเล่าแล้วกันครับ”

โจอีฮยอน : “ใช่ค่ะ พวกเรามีฉากที่ถ่ายกันในโรงเรียนด้วย เลยไม่ได้มีแค่เราสองคน มีเพื่อนๆในห้องเยอะเลยค่ะ ทั้งเล่นกัน แกล้งกัน แล้วก็เม้าท์มอยกันตามประสาคนรุ่นเดียวกัน รู้สึกเหมือนเล่นกับเพื่อนจริงๆ ความรู้สึกแบบนั้นยังชัดอยู่ในความทรงจำเลยค่ะ”

คุณเป็นนักแสดงที่เลือกเล่นบทที่มีความเป็นเอกลักษณ์มาก อะไรคือสิ่งที่คุณมองหาในบทบาทแต่ละเรื่อง แล้วบทของซองอาให้อะไรกับตัวคุณในฐานะโจอีฮยอนบ้าง?

โจอีฮยอน : “ในการเลือกผลงานอย่างแรกเลยคือเนื้อเรื่องโดยรวมสำคัญที่สุดค่ะ จากนั้นก็จะดูว่าคาแร็กเตอร์ของฉันจะสามารถดึงดูดผู้ชมได้ในแง่ไหน และตัวฉันเองรู้สึกสนใจหรือเชื่อมโยงกับบทนี้มากแค่ไหน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ฉันให้ความสำคัญมากค่ะ และตัวละคร ‘พัคซองอา’ ก็ส่งอิทธิพลต่อฉันอยู่นะคะ ปกติแล้วในช่วงระยะเวลาถ่ายทำ ฉันมักจะซึมซับบุคลิกของตัวละครมาโดยไม่รู้ตัว ก็จะเปลี่ยนไปตามตัวละครอยู่บ้าง ซึ่งกับบทซองอาครั้งนี้ ฉันรู้สึกได้เลยว่าตัวเองกลายเป็นคนร่าเริงขึ้น พูดเก่งขึ้นกว่าเดิมเลยค่ะ”

คุณคิดว่าเสน่ห์ของ Head Over Heels คืออะไร และอะไรที่จะทำให้คนตกหลุมรักซีรีส์เรื่องนี้?

โจอีฮยอน : “เสน่ห์ของผลงานเรื่องนี้ อย่างแรกเลยก็คือเคมีของเราสองคนค่ะ แต่ไม่ใช่แค่เราสองคนเท่านั้นนะคะ ตัวละครทุกตัวต่างก็มีความเข้ากันอย่างลงตัวมาก ๆ ฉันรู้สึกว่าทีมเวิร์ค เราดีมาก และมั่นใจว่าผู้ชมเองก็น่าจะสัมผัสได้เช่นกัน ฉันคิดว่านั่นคือเสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้เลย”

ชูยองอู : “เหมือนกับเรื่องแนวโรแมนติกส่วนใหญ่ครับ แน่นอนว่าผู้ชมจะคอยลุ้นว่าเราสองคนจะเริ่มคบกันเมื่อไหร่ มันก็จะมีความตื่นเต้นและคาดหวังในจุดนั้นอยู่ครับ และยังมีอีกหลายแง่มุมของเรื่องที่ผมคิดว่าผู้ชมจะรู้สึกสนุกอย่างแน่นอนครับ

ในเรื่องตัวละครของคุณทั้งสองคนต้องมีช่วงเวลาที่ต้องตกหลุมรักกัน คุณคิดว่าถ้าเป็นตัวคุณเอง จะตกหลุมตัวละครของกันและกันเพราะอะไร?

โจอีฮยอน : “ถึงภายนอกเขาจะดูเย็นชา แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนใส่ใจและมีการกระทำที่อบอุ่น ฉันคิดว่าฉันน่าจะตกหลุมรักตรงจุดนั้นค่ะ”

ชูยองอู : “ผมชอบที่เธอคอยดูแลและเป็นห่วงอยู่เงียบ ๆ แบบนั้นครับ แล้วซองอาก็ยิ้มสวยมากด้วยครับ”

ตัวละครของคุณดูเป็นคนที่ต่อต้านความเชื่อทางไสยศาสตร์ ทั้งที่ตัวเองมีเคราะห์ร้าย อยากรู้ว่าความยากในการถ่ายทอดคาแรคเตอร์นี้คืออะไร?

ชูยองอู : “คยอนอูเกลียดร่างทรงครับ เขาก็ไม่ชอบเรื่องร่างทรงอะไรแบบนี้เลย เขาคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องโกหก ซึ่งในซีรีส์ก็จะมีเหตุผลที่ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น ผมเลยสามารถเข้าใจคยอนอูได้ดี และอีกอย่างเรื่องทางไสยศาสตร์มันพรากสิ่งที่สำคัญที่สุดของคยอนอูไป ผมก็เลยสามารถเข้าถึงอารมณ์ของเขาได้จริงๆ ครับ”

ข้อคิดที่คุณได้จากตัวละครของเรื่องคืออะไร?

ชูยองอู : “สำหรับคยอนอูแล้ว การยิงธนูมีความหมายสำคัญมากเลยครับ ไม่ว่าเรื่องร้าย ๆ จะเข้ามาแค่ไหน เขาก็จะมองไปที่การยิงธนู และผ่านไปให้ได้ ทำให้ผมคิดว่าถ้ามีอะไรที่เหมือนกับการยิงธนูสำหรับตัวเองบ้างก็คงจะดีไม่น้อยครับ”

โจอีฮยอน : “คิดว่าไม่ใช่แค่ตัวละครซองอาเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วซีรีส์เรื่องนี้มีความรักเป็นธีมหลักค่ะ และมันก็เหมือนจะสื่อว่าความรักสามารถชนะทุกอย่างได้ เป็นข้อความที่ส่งให้กับผู้ชมค่ะ”

เตรียมสัมผัสเสน่ห์และความซาบซึ้งชวนใจฟูได้ในซีรีส์ “Head Over Heels” หรือ “หนุ่มดวงจู๋กับหมอดูคนจ๋วย” ซีรีส์โรแมนติก-แฟนตาซีที่คุณไม่ควรพลาด สตรีมตอนแรกวันที่ 23 มิถุนายนนี้ และตอนถัดไปทุกวันจันทร์และอังคาร บน Prime Video!.


คอลัมน์ “SeoulStation”
โดย “นูน่าเมี้ยน”