เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาได้ทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขอให้วินิฉฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
หลัง น.ส.แพทองธาร ยอมรับว่าคลิปเสียงสนทนาเป็นของตนกับสมเด็จฮุน เซน จริง และมีเนื้อหาพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงมีพฤติกรรมบ่งบอกเป็นคนทรยศขายชาติ ทำให้กระทบอธิปไตยไทย กองทัพ ประชาชน ตามที่ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ออกแถลงการณ์ไปนั้น
ล่าสุดยังพบคำร้องมีทั้งหมด 5 หน้า ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามคำร้องของ พล.อ.สวัสดิ์ และสมาชิกวุฒิสภารวม 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82
1.ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
2.ขอศาลรัฐธรรมนูญโปรดมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 71 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 40 (8)
3.รับทราบหรืออนุญาตให้คณะสมาชิกวุฒิสภา ผู้ร้องรวมจำนวน 36 คน มอบให้
พล.อ.สวัสดิ์ เป็นผู้มีอำนาจยื่นคำร้องเพิ่มเติมขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องหรือคำร้องเพิ่มเติมยื่นบัญชีระบุพยานต่างๆ ยื่นคำร้อง คำแถลงการณ์เปิดและปิดคดี คำแถลงคำชี้แจงให้การให้ถ้อยคำหรือให้ถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นและเบิกความต่อศาล ดำเนินกระบวนพิจารณา หรือดำเนินการใด ๆ ทั้งปวง ในคดีนี้ต่อประธานวุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญ แทนคณะสมาชิกวุฒิสภาทุกคนจนเสร็จการ.